ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 45.03 จุดขานรับผลประมูลบอนด์ยุโรป

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 20, 2012 06:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เพราะได้แรงหนุนจากตัวเลขคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี และความสำเร็จในการประมูลขายพันธบัตรของฝรั่งเศสและสเปน นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนมีมุมมองในแง่บวกต่อผลประกอบการของภาคเอกชน รวมถึงแบงก์ ออฟ อเมริกา และมอร์แกน สแตนลีย์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 45.03 จุด หรือ 0.36% แตที่ 12,623.98 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 6.46 จุด หรือ 0.49% แตะที่ 0.49% แตะที่ 1,314.50 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 18.62 จุด หรือ 0.67% แตะที่ 2,788.33 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการเมื่อคืนนี้ ขานรับรายงานที่ว่ารัฐบาลฝรั่งเศสสามารถประมูลขายพันธบัตรระยะยาวได้ 9.5 พันล้านยูโร (1.22 หมื่นล้านดอลลาร์) เมื่อวานนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงสู่ระดับ 3.12% ลดลงเมื่อเทียบกับการประมูลขายพันธบัตรประเภทเดียวกันหลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

ด้านรัฐบาลสเปนสามารถประมูลขายพันธบัตรที่จะครบกำหนดในปี 2559, 2562 และ 2565 ได้ 6.6 พันล้านยูโร (8.5 พันล้านดอลลาร์) มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ระหว่าง 3.5-4.5 พันล้านยูโร โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งจะครบกำหนดในปี 2565 ลดลงแตะ 5.40% จาก 5.54% ในการประมูลเมื่อเดือนธันวาคม

ความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรของฝรั่งเศสและสเปนช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป นอกจากนี้ ยังสะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนไม่สนใจที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสและสเปนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศทั้งสอง

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนมากขึ้นเมื่อกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 50,000 ราย แตะที่ 352,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้วซึ่งสิ้นสุดวันที่ 14 มกราคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2551 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจะอยู่ที่ 385,000 ราย

นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อผลประกอบการของภาคเอกชนสหรัฐ หลังจากแบงก์ออฟ อเมริกา และมอร์แกน สแตนลีย์ เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 2% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดีดตัวขึ้น 5%

หุ้นอีเบย์ อิงค์ พุ่งขึ้น 3.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดและยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีหน้า ขณะที่หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 3.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ไตรมาส 4 พุ่งขึ้นเกินคาด ส่วนหุ้นรีนิวเอเบิล เอนเนอร์จี กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตไบโอดีเซลรายใหญ่สุดของสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 10 เซนต์ ในการซื้อขายวันแรก

อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กผันผวนในระหว่างวัน หลังจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ ประกาศระงับการซื้อขายหุ้นอีสต์แมน โกดัก ภายหลังจากที่บริษัทได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์สินจากการล้มละลายเมื่อวานนี้ พร้อมระบุว่า บริษัทได้รับเงินกู้ระยะเวลา 18 เดือนมูลค่า 950 ล้านดอลลาร์จากซิตี้กรุ๊ป เพื่อให้บริษัทสามารถประคับประคองกิจการได้ต่อไป

นักลงทุนจับตาดูยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.ของสหรัฐ ซึ่งสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐจะรายงานในวันนี้ เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ายอดขายบ้านมือสองจะอยู่ที่ 4.65 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นจาก 4.42 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ