นางธัญรัตน์ เทศน์สาลี ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์(KCE)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทคาดการณ์ยอดขายในปี 55 จะกลับมาเติบโต 5-10% มาที่ 250-260 ล้านดอลลาร์ จากปี 54 ที่ยอดขายพลาดเป้า 250 ล้านดอลลาร์ คาดว่าจะต่ำกว่าเป้าราว 10% เนื่องจากโรงงานเคซีอีเทคโนโลยีในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทำให้ต้องปิดทำการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.54
ทั้งนี้ โรงงานเคซีอีเทคโนโลยีกลับมาเดินเครื่องตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.55 แล้วในบางสายการผลิต แต่ยังไม่ทั้งหมด โดยคาดว่าภายในเดือน มี.ค.น่าจะกลับมาเดินเครื่องผลิตได้เต็มกำลัง และขณะนี้ลูกค้าเดิมของโรงงานดังกล่าวที่ย้ายออร์เดอร์ไปที่อื่นตอนนี้กลับมาแล้ว โดยกำลังการผลิตของโรงงานดังกล่าวคิดเป็น 40% ของกำลังการผลิตทั้งหมด หรือ 9 แสน ตร.ฟุต/เดือน
"บริษัทจะตรวจสอบโรงงานว่ามีความพร้อมแค่ไหน เมื่อลูกค้ามั่นใจก็จะโอนออเดอร์กลับมา จึงเชื่อว่าออเดอร์ที่หายไปก็จะกลับสู่ปกติได้ในไม่ช้า คิดว่าจะกลับมา 70% ของกำลังการผลิตได้ ตอนนี้เราถูกเร่งจากลูกค้าแสดงถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพการผลิต ทำให้ปีนี้บริษัทคาดว่ายอดขายทั้งกลุ่มจะกลับมาเติบโตโดยตั้งเป้าโต 5-10% ไปที่ 250-260 ล้านดอลลาร์จากปี 54 ที่คาดว่าจะต่ำกว่าเป้า"นางธัญรัตน์ กล่าว
สำหรับโรงงานที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัทคือโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมเมื่อปีก่อนจะทำให้กำไรในปีนี้น่าจะกลับมาดี ประกอบกับโรงงานอื่นอย่างที่สมุทรปราการก็ผลิตเต็มที่ ขณะที่มองว่าปีนี้ภาคอุตสาหกรรมมยังเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งจะทำให้ผู้ผลิต PCB ในรถยนต์จะเติบโตไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการทั้งปี 54 ยังคาดว่าจะมีกำไร แม้ไตรมาส 4/54 จะหยุดการผลิตบางส่วนเพราะได้รับผลกระทบน้ำท่วม แต่งวด 9 เดือนก็มีกำไรสุทธิ 232 ล้านบาท โดยไตรมาส 4/54 คาดว่ากำไรจะกระทบบ้างจากที่โรงงานเคซีอีเทคโนโลยีปิดชั่วคราว ซึ่งที่ผ่านมาโรงงานดังกล่าวก็ประสบผลขาดทุนอยู่แล้ว แต่ในปี 55 เมื่อกำลังการผลิตขึ้นมาเต็มที่ก็คาดว่าผลขาดทุนจะน้อยลง
"กำไรไตรมาส 4/54 เนื่องจากมีเรื่องน้ำท่วมเข้ามา asset ต่างๆ write off บางส่วนก็อาจจะมีผลขาดทุนในส่วนนั้นบ้าง แต่ก็มีประกันเต็มที่ต้องรอดูก่อนว่าจะ book รายได้เคลมประกันจริงๆเข้ามาช่วงไหน" นางธัญรัตน์ กล่าว
ทั้งนี้ โรงงานในนิคมฯไฮเทค อยุธยานั้นบริษัททำประกันไว้ในทุนประกัน 4,500 ล้านบาทก็จะได้ตามความเสียหาย โดยเป็นประกันเครื่องจักร 1,600 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีวงเงินประกันธุรกิจหยุดชะงักด้วย ซึ่งตรงนี้ก็คงจะได้รับเข้ามาเต็มที่
นายธัญรัตน์ กล่าวว่า บริษัทเตรียมงบลงทุนในปีนี้ไว้ประมาณ 400 ล้านบาทสำหรับสร้างเขื่อนระบบป้องกันน้ำที่โรงงานที่นิคมฯไฮเทค อยุธยา คาดว่าจะเสร็จก.ย.นี้ ส่วนการลงทุนอื่นๆ ยังไม่มี เพราะตอนนี้โฟกัสมาที่โรงงานในนิคมฯไฮเทค ที่เพิ่งกลับมาเดินเครื่องและรอให้กำลังการผลิตขึ้นเต็มที่ก่อน
ส่วนแผนการสร้างโรงเคซีอิเล็กทรอนิกส์ ผลิต PCB แห่งที่ 2 ที่ลาดกระบัง จากเดิมคาดว่าจะลงเสาเข็มในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาแต่เกิดน้ำท่วมก่อนจึงระงับออกไปก่อน คาดว่าปลายปี 55 นี้น่าจะกลับมาก่อสร้างใหม่โดยใช้เวลาก่อสร้าง 1 ปี โดยมูลการลงทุน 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินลงทุนของปี 54