(เพิ่มเติม) THAI คาด Cabin Factor ช่วง 1-16 ม.ค.55 อยู่ที่ 78%ฟื้นจาก 68%ใน ธ.ค.54

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 20, 2012 15:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย(THAI) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งแรกของเดือนม.ค.55 มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร(Cabin Factor) อยู่ที่ 78.7% ถือว่าเป็นอัตราที่ใช้ได้ เพราะปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 68% ในเดือนธ.ค.54 ซึ่งเป็นผลจากยอดผู้โดยสารแถบยุโรป และออสเตรเลียดีกว่าที่คาดไว้เดิม แต่อย่างไรก็ดี ยังมีจุดอ่อนจากที่ผู้โดยสารในแถบเอเชีย เช่น สิงคโปร์ และญี่ปุ่นที่ยังน้อยอยู่

นอกจากนี้ การสำรองที่นั่งล่วงหน้าตั้งแต่กลางเดือนม.ค.-ก.พ. 55 เฉลี่ย 77% เป็นผลจาดการที่บริษัทดำเนินการบริหารงาน และปรับปรุงประสิทธิภาพของการบริหารรายได้อย่างเข้มข้น

จากในไตรมาส 4/54 รายได้ของบริษัทลดลงมากจากผลกระทบน้ำท่วม และคาดว่าในไตรมาสนี้จะขาดทุน 5 พันล้านบาท โดยในเดือน พ.ย. Cabin Factor ปรับตัวลงไปที่ระดับ 68.1% แต่ปลาย ธ.ค. 54 สถานการณ์เริ่มดีขึ้น

"การดำเนินงานในเดือนธ.ค.54 ผู้โดยสารทยอยกลับเข้ามาจากเหตุการณ์น้ำท่วม จำนวนผู้โดยสาร/กิโลเมตร ลดลง 8.9% ดีขึ้นจากเดือน พ.ย.ที่ลดลงไปมาก"นายปิยสวัสดิ์ กล่าว

ส่วนกรณีที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยแจ้งเตือนพลเมืองสหรัฐฯ ให้ระมัดระวังเหตุก่อการร้ายในไทยในขณะนี้นั้น ไม่มีผลกระทบต่อปริมาณผู้โดยสารของ THAI แต่บริษัทฯ ก็หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้ Cabin Factor ในเดือน ม.ค.55 จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี รวมทั้งเดือนนี้ยังได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันในเดือนธ.ค.54 ที่ต่ำลงด้วย

นายปิยสวัสดิ์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมบอร์ด THAI ในวันนี้ยังมีมติให้ออกหุ้นกู้อีก 3 พันล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นกู้อายุ 7 ปี วงเงิน 1 พันล้านบาท และหุ้นกู้อายุ 10 ปี วงเงิน 2 พันล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ, ลงทุนในสินทรัพย์ และชำระคืนเงินกู้ของบริษัทที่มีต้นทุนทางการเงินสูงกว่า โดยมอบหมายให้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY)เป็นที่ปรึกษาและจัดการจำหน่ายหุ้นกู้

นอกจากนี้ ที่ประชุมบอร์ดฯ ยังได้เสนอมาตรการลดค่าใช้จ่ายของบริษัท ที่คาดว่าจะสามารถปรับลดค่าใช้จ่ายลงได้ถึงปีละ 602 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะลดได้จากค่าชดเชยวันหยุดพักผ่อนของพนักงาน รวมถึงการงดรับเงินเดือนเฉพาะเดือนที่ 12 ของผู้บริหารระดับสูงโดยความสมัครใจ ตั้งแต่ตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และกรรมการผู้จัดการหน่วยธุรกิจ

ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องลดค่าใช้จ่ายของบริษัทลง เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทได้รับผลกระทบจากวิกฤติการน้ำท่วมในประเทศ ประกอบกับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยปี 54 ที่ผ่านมาพบว่าราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นถึง 40% ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในส่วนของน้ำมันสูงกว่าปี 53 ถึง 2 หมื่นล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ