นายมาร์ค อาร์โนลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธา(BAY) เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าการขยายตัวของสินเชื่อ 11% จากปี 54 ที่สินเชื่อขยายตัว 13% และตั้งเป้าลดเชื่อไม่ก่อให้เกิดรายได้จาก 2.95 หมื่นล้านบาทในสิ้นปี 54 เหลือ 2.7 หมื่นล้านบาทในปี 55
ขณะที่ตั้งเป้าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ(NIM)เหลือ 4.4% ลดลงจากปี 54 ที่ 4.5 % เนื่องจากมีแรงกดดันจากการเก็บค่าธรรมเนียมเงินฝากที่ต้องนำส่งสถาบันคุ้มครองเงินฝากเพิ่มมากขึ้นเพื่อนำเงินไปชำระหนี้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน แม้ขณะนี้ยังไม่มีการสรุปอัตราการจัดเก็บ ส่วนรายได้ค่าธรรรมเนียมจะขยายตัว 12% จากปี 54
ทั้งนี้ กรุงศรีกรุ๊ปประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 55 ขยายตัวที่ 4-5% การบรบริโภคภาคเอกชนขยายตัว 3.8-4.8% ขณะที่การลงทุนคาดว่าจะขยายตัว 9.5-11.5% และการส่งออกขยายตัว 7-9% ส่วนอัตราเงินเฟ้อคาดว่าอยู่ที่ 3-4%
นายมาร์ค อาร์โนลด์ ยังกล่าวอีกว่าสิ่งที่จะกระทบต่อการดำเนินธุรกิจคือการจัดเก็บค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหวังว่าภาครัฐจะทำให้เกิดความเท่าเทียมกันระหว่างธนาคารรัฐและเอกชนเพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ มิฉะนั้นจะนำไปสู่ความไม่มั่นคงในระบบสถาบันการเงิน
ส่วนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเงินฝากในอัตราใหม่จะรวมไปถึงตั๋ว B/E ด้วยนั้น ขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างการวางกลยุทธ์ในการระดมเงินโดยการออกตั๋ว B/E ซึ่งต้องรอกฎเกณฑ์ที่จะเกิดขึ้นในช่วงกลางปีนี้ก่อน โดยปัจจุบันธนาคารมีสัดส่วน B/E ที่ 20% ของฐานเงินฝากทั้งหมด
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นช่วงปลายปีที่ผ่านมาคงต้องใช้เวลาฟื้นฟูกว่าจะกลับเข้าสูภาวะปกติต้องใช้เวลาอีก 6 เดือน ด้านสินเชื่อของธนาคารปีนี้จะเน้นไปที่สินเชื่อบุคคลตั้งเป้าโต 2-3 เท่าของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP) สินเชื่อSME ขยายตัว 2-2.5 เท่าของ GDP และสินเชื่อคอร์ปอเรทขยายตัว 1-1.5 เท่าของGDP
นายมาร์ค ยังปฏิเสธกระแสข่าวการเข้าซื้อพอร์ตสินเชื่อของธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้(HSBC)ว่า เป็นเพียงข่าวลือและไม่ขอให้ความเห็นในเรื่องนี้ แต่ธนาคารก็ไม่ปิดโอกาสการเข้าซื้อกิจการหรือการเข้าซื้อพอร์ตสินเชื่อเนื่องจากขณะนี้กรุงศรีกรุ๊ปสามารถทำได้ แต่ต้องทำให้รายได้และฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นด้วย