นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)กล่าวในงานเสวนา"ตลาดทุนไทยจะแข่งขันอย่างไรในอีก 5 ปีข้างหน้า"ว่า การที่ตลาดทุนไทยจะพัฒนาได้อย่างยั่งยืนและสามารถแข่งขันกับตลาดทุนโลกได้นั้น ต้องเริ่มจากการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับมหภาคให้มีความมั่นคงและแข็งแกร่งก่อน ซึ่งเป็นหน้าที่ของทางรัฐบาล
นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบอีก 3 ส่วน ได้แก่ 1. การสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ (Physical Infrastructure) เช่น ระบบไฟฟ้า น้ำประปา รวมทั้งสาธารณูปโภคด้านต่างๆ 2.โครงสร้างพื้นฐานทางกฏหมาย (Legal Infrastructure) จะต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจและการลงทุน และ 3.โครงสร้างพื้นฐานทางสังคม (Social Infrastructure) จะต้องมีความแข็งแกร่ง
"เรื่องแผนการพัฒนาตลาดทุนจะต้องมีความชัดเจนว่าสุดท้ายแล้วจะเอาหรือไม่เอา ซึ่งวันจันทร์นี้คุณกิตติรัตน์จะเข้ารับตำแหน่งก็จะมีการหารือกับผู้บริหารของกระทรวงการคลังในเรื่องนี้ ส่วนเรื่องการเมืองก็ต้องนิ่ง ชัดเจน และต้องมีความต่อเนื่องของนโยบาย"ดร.สมชัย กล่าว
นายชาลี จันทนยิ่งยง รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)กล่าวว่า การเชื่อมโยงตลาดทุนเอเซียนเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายของตลาดทุนไทย ซึ่งขณะนี้ต้องดูว่าจะทำอย่างไรได้บ้างให้ตลาดทุนไทยได้ประโยชน์
ทั้งนี้ ก.ล.ต.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลตลาดทุนก็กำลังติดตามวิกฤตการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตลาดทุนโลก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตลาดทุนไทยทั้งเรื่องเสรียรภาพของระบบตลาดทุน, ส่วนเรื่องความซับซ้อนของสินค้าต่างๆที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดทุนนั้น ก็ต้องเร่งสร้างความเข้าใจให้กับนักลงทุน รวมทั้งติดตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวน โดยเฉพาะจากทางสหรัฐและยุโรป ซึ่งสิ่งที่กังวลที่สุดในขณะนี้คือการล้มพังทั้งระบบของตลาดทุนที่มีความเชื่อมโยงกัน
ขณะที่นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. (PTT) กล่าวว่า การควบรวมกิจการถือเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทจดทะเบียนไทยให้สามารถแข่งขันกับบริษัทต่างชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทางกลุ่มของปตท.ก็ได้ดำเนินการในเรื่องนี้มาโดยตลอด ทั้งนี้ผู้ประกอบการไทยก็ต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมรับสถานการณ์การต่างๆที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาด้วย โดยควรมีการพัฒนาเทคโนโลยีของธุรกิจให้ทันสมัยและรวดเร็วขึ้น เพราะในโลกธุรกิจทุกนาทีมีค่าในการ
ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า ตลาดทุนไทยจะต้องมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนว่าจะดำเนินการไปในแนวทางไหน ซึ่งที่ผ่านมาปัญหาเรื่องความวุ่นวายของการเมืองในประเทศได้เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาตลาดทุนไทย ทั้งนี้ในความคิดเห็นส่วนตัวอยากให้ตลาดทุนไทยเป็นกลไกหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศและเป็นศูนย์กลางการลงทุนและระดมทุนของกิจการต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ควรมีการส่งเสริมให้นักลงทุนหรือประชาชนทั่วไปมีความรู้พื้นฐานทางด้านการลงทุนมากขึ้น