นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ(BBL)กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของธนาคารและบริษัทย่อยสำหรับปี 54 มีกำไรสุทธิ 27,337 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,744 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.2 จากปี 53 และมีกำไรก่อนหักสำรองและภาษีเงินได้ 46,175 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,295 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.2 โดยสินเชื่อเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.1 และเงินรับฝากเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.9
“ผลการดำเนินงานของธนาคารในปีที่ผ่านมา เป็นที่น่าพอใจ ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงของปัญหาการเงินในทวีปยุโรป และสภาพการแข่งขันสูงในตลาด ตลอดจนผลกระทบของสถานการณ์อุทกภัยรุนแรงในช่วงครึ่งปีหลังต่อเศรษฐกิจของประเทศ"นายชาติศิริ ล่าว
ทั้งนี้ เงินให้สินเชื่อของธนาคารในปี 54 ยังคงเติบโตดีโดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.1 จากปี 53 หรือ เพิ่มขึ้น 214,275 ล้านบาท ทำให้เงินให้สินเชื่อ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 54 มีจำนวน 1,470,398 ล้านบาท โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากความต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการผลิตสินค้าและบริการ และเงินทุนเพื่อขยายกิจการ
สินเชื่อของธนาคารในไตรมาส 4/54 เพิ่มขึ้น 69,485 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.0 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/54 เนื่องจากความต้องการสินเชื่อหมุนเวียนตามฤดูกาลยังคงเพิ่มขึ้นในหลายภาคอุตสาหกรรม เช่น ธุรกิจการเกษตร ธุรกิจบริการ และการอุตสาหกรรม และส่วนหนึ่งเป็นความต้องการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูกิจการจากเหตุอุทกภัย
สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2554 อยู่ที่ 42,574 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.7 ของสินเชื่อรวม เทียบกับ 45,588 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.0 ณ สิ้นปี 53 ธนาคารตั้งสำรองค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญในปี 54 จำนวน 12,027 ล้านบาท โดยเป็นการตั้งสำรองในไตรมาส 4/54 จำนวน 7,046 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการบริหารฐานะการเงินด้วยหลักความรอบคอบและระมัดระวังของธนาคาร ส่งผลให้ ณ 31 ธันวาคม 2554 ธนาคารมีเงินสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญทั้งสิ้น 84,738 ล้านบาท และมีอัตราส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพที่ร้อยละ 199.0 เทียบกับร้อยละ 158.9 ณ สิ้นปี 53
ด้านการบริหารสภาพคล่อง ธนาคารมียอดเงินรับฝาก ณ ธันวาคม 2554 จำนวน 1,587,834 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 193,446 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.9 จากสิ้นปี 53 เป็นผลจากความสำเร็จของการระดมเงินฝากผ่านการเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ตรงกับความต้องการของผู้ฝากเงิน รวมถึงการมีสาขาครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ในประเทศ ส่งผลให้อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝาก ณ สิ้นปี 54 อยู่ที่ร้อยละ 92.6 เทียบกับร้อยละ 90.1 ณ สิ้นปี 53
ในด้านเงินกองทุน หากนับรวมกำไรสุทธิของงวด 6 เดือนหลังปี 54 เข้าเป็นเงินกองทุน อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงจะอยู่ในระดับสูงที่ประมาณร้อยละ 13.2 สูงกว่าระดับที่กฎหมายกำหนดที่ร้อยละ 4.25 โดยมีฐานะเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงรวมอยู่ที่ร้อยละ 16.3 และมีส่วนของเจ้าของ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 54 จำนวน 243,815 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11.6 ของสินทรัพย์รวม
ธนาคารมีรายได้รวมจากการดำเนินงานสำหรับปี 54 จำนวน 82,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,357 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.4 จากปี 53 ส่วนใหญ่จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น 7,078 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.5 สำหรับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิของธนาคารในปี 54 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 2.76 จากร้อยละ 2.64 ในปี 53 ตามอัตราดอกเบี้ยและปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มขึ้น
รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 844 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.9 ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นที่ค่าธรรมเนียมจากบริการบัตรเครดิต บริการด้านค้ำประกันและอาวัล บริการอิเล็กทรอนิกส์ และบริการชำระเงิน แต่มีกำไรสุทธิจากเงินลงทุนลดลง 2,256 ล้านบาท เนื่องจากในปี 53 ธนาคารมีกำไรจากการขายหุ้นธนาคารสินเอเซีย
ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานสำหรับปี 54 จำนวน 36,059 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,062 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.7 จากปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน โดยเฉพาะในไตรมาส 4/54 ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานเพิ่มขึ้น 637 ล้านบาทหรือร้อยละ 14.2 จากไตรมาส 3/54 เนื่องจากธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือและปรับผลประโยชน์ต่างๆ สำหรับพนักงาน เช่น จ่ายเงินช่วยเหลืออุทกภัยเป็นกรณีพิเศษแก่พนักงาน และปรับเพิ่มเงินเดือนพิเศษให้แก่พนักงานตามแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของตลาด
สำหรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในไตรมาส 4/54 ที่เพิ่มขึ้น 1,410 ล้านบาทจากไตรมาสก่อนนั้น ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและการบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานปี 2554 อยู่ที่ร้อยละ 43.8 ใกล้เคียงกับร้อยละ 42.2 ในปี 2553