ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดตลาดบวกเล็กน้อยในวันนี้ เนื่องจากความคาดหวังที่ว่า กรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการปรับลดหนี้สินกับเจ้าหนี้ภาคเอกชน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวก 5 จุด แตะ 12,728 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 2 จุด แตะที่ 1,317 จุด ดัชนี Nasdaq บวก 4 จุด แตะที่ 2,791.00 จุด
รมว.คลังกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) จะประชุมร่วมกันในวันนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ เพื่อร่างแผนระยะยาวในการจัดการกับวิกฤตหนี้ยูโรโซน และจะพิจารณาเรื่องเงื่อนไขในการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ หลังจากที่เจ้าหนี้ภาคเอกชนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับทางการกรีซในการเจรจาช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้น Chesapeake Energy Corp ซึ่งเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐพุ่งขึ้น 7% หลังจากบริษัทเปิดเผยแผนการลดการผลิต ขณะที่หุ้น Apache Corp ดีดตัวขึ้นเกือบ 2% หลังจากบริษัทวางแผนซื้อกิจการบริษัท Cordillera Energy Partners มูลค่า 2.85 พันล้านดอลลาร์
หุ้นรีเสิร์ช อิน โมชัน (อาร์ไอเอ็ม) ซึ่งเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือแบล็คเบอร์รี่ ดิ่งลง 4.7% หลังจากอาร์ไอเอ็มประกาศปรับผังคณะผู้บริหารครั้งใหญ่ โดยระบุว่านายจิม บาลซิลลี และนายไมค์ ลาซาริดิส ซีอีโอร่วมของอาร์ไอเอ็ม ได้ลาออกจากตำแหน่งแล้ว หลังจากที่ทำหน้าที่ผู้บริหารอาร์ไอเอ็มมานานถึง 20 ปี และไม่สามารถผลักดันให้อาร์ไอเอ็มต้านทานคู่แข่งรายใหญ่อย่างบริษัท แอปเปิล อิงค์ ได้
หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดิ่งลง 3.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายงานผลประกอบการที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นักลงทุนยังจับตาดูผลการประชุมระยะเวลา 2 วันของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า เฟดอาจจะตรึงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำนานกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค., ยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค. และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงขั้นต้นประจำไตรมาส 4/2554
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ จีดีพีที่แท้จริงประจำไตรมาส 4/2554 จะขยายตัว 3% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2554 ที่ขยายตัวเพียง 1.8% เนื่องจากชาวอเมริกันมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นและภาคเอกชนปรับเพิ่มสต็อกสินค้าคงคลัง