นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ฟินันซ่า เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกกองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัส 6 เดือน 6 (FAM FIP 6M6) ใประมาณการผลตอบแทน 3.45 % ต่อปีอายุประมาณ 6 เดือน เสนอขายถึงวันที่ 31 มกราคม 2555 ผู้ที่สนใจสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 2,000 บาท
ทั้งนี้ FAM FIP 6M6 มีนโยบายที่จะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ที่มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยและเงินต้น โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน และ/หรือ เงินฝาก ของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade)
FAM FIP 6M6 จะลงทุนใน เงินฝากต่างประเทศ สกุลเงิน USD หรือ CNY กับธนาคาร (BOC, ICBC, HK หรือ Macau, Sydney) ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ ตั๋วแลกเงิน บริษัท ดั๊บเบิ้ลเอ (1991) ตั๋วแลกเงิน บมจ. บัตรกรุงไทย บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ บมจ.ภัทรลิสซิ่ง และตั๋วเงินคลังหรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อัตรารับซื้อคืนอัตโนมัติ (ต่อปี) ถึง 3.45 นับว่าเป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อเทียบกับกองทุนอื่นในลักษณะเดียวกัน โดยในเดือนที่ผ่านมาตัวเลขประมาณการที่เห็นสำหรับกอง 6 เดือนจะเป็น 2.9-3.4%[1]ต่อปีเท่านั้น
ทั้งนี้ การออกกองทุนดังกล่าวเพื่อเป็นการรองรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนท่ามกลางการประกาศลดดอกเบี้ยนโยบาย และถ้าสถานการณ์เศรษฐกิจยุโรปแย่ลงต่อเนื่องอาจจะได้เห็นการปรับลดของดอกเบี้ยนโยบายอีกในช่วงที่เหลือของปี
นอกจากนี้ จากการที่ ธนาคารแห่งประเทศไทยมีนโยบายจะจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากธนาคารพาณิชย์เพิ่มเติมเพื่อลดภาระหนี้จากกองทุนฟื้นฟูจะยิ่งส่งผลให้แนวโน้มดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในระดับที่ต่ำ ดังนั้น การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่มีส่วนผสมของพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชนคุณภาพดี จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุนได้ดีกว่าการฝากเงินเพียงอย่างเดียว