นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. ไอเอ็นจี จำกัด เปิดเผยว่า บลจ. ไอเอ็นจี เตรียมเสนอขาย กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอเชี่ยน เดบท์ รีจินอล บอนด์ ปันผล ให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 30 มกราคม-7 กุมภาพันธ์ 2555นี้ โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน ING (L) Renta Fund Asian Debt (Local Bond)* ที่มีนโยบายกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ ตราสารตลาดเงิน และเงินฝาก เช่น ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินเดีย ฮ่องกง และจีน เป็นต้น
จุดเด่นของ “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอเชี่ยน เดบท์ รีจินอล บอนด์ ปันผล" นอกจากจะเน้นการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมีความแข็งแกร่งและโดดเด่นทางด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจแล้ว กองทุนต้นทางบริหารจัดการโดยผู้จัดการกองทุนจาก ING Investment Management ซึ่งเป็นทีมบริหารการลงทุนระดับประเทศ ภูมิภาคและระดับโลกที่มีประสบการณ์การบริหารตราสารหนี้เอเชียมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1998 และได้รับรางวัลการบริหารจัดการดีเด่นจากสถาบันชั้นนำระดับโลกจากกองทุนรวมตราสารหนี้ภายใต้การบริหารในปัจจุบัน
ขณะเดียวกันผลการดำเนินงานของกองทุน ING Asian Debt Local Bond Strategy ซึ่งเป็นกองทุนต้นแบบ สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปีในระดับ 14.63% ต่อปี สูงกว่าผลตอบแทนเปรียบเทียบจากดัชนี HSBC’s Asian Local Bond Index (ALBI) ซึ่งอยู่ที่ 13.14% ต่อปี (ข้อมูล ณ 31 ตุลาคม 2011, ที่มา INGIM)
“เรามั่นใจว่าโอกาสที่นักลงทุนจะได้รับจากการลงทุนในกองทุนนี้ที่มาจากผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ย โอกาสในการทำกำไรจากราคาตราสารหนี้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และโอกาสการทำกำไรของอัตราแลกเปลี่ยน กองทุนยังมีนโยบายการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน เราเชื่อว่าจากการที่เราศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อคัดเลือกองทุนที่เหมาะสมกับการลงทุนในปี 2012 ให้กับนักลงทุน จึงทำให้เรามั่นใจว่ากองทุนนี้จะเป็นทางเลือกการลงทุนที่จะสามารถสร้างโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนในปีนี้ได้เป็นอย่างดี"นายจุมพล กล่าว
นายจุมพล กล่าวอีกว่า ไอเอ็นจี อินเวสท์เม้นท์ แมเนจเม้นท์ ได้คาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2555 ของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วว่าจะเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางภาวะความไม่แน่นอนเกี่ยวกับปัญหาวิกฤติหนี้ของยุโรป แต่หากพิจารณาภาพรวมนับว่าเศรษฐกิจโดยรวมทรงตัวและกลุ่มประเทศในยูโรโซนจะขยายตัวในระดับที่ลดลง ในขณะที่เศรษฐกิจเอเชียยังคงมีความแข็งแกร่งทั้งด้านฐานะการเงินและการคลังที่มั่นคง จากการที่มีปริมาณเงินสำรองระหว่างประเทศและการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่อยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ นักลงทุนควรมองหาการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี โดยแนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้ของภูมิภาคเอเชียในรูปสกุลเงินท้องถิ่น เนื่องจากโครงสร้างทางการเงินที่ยังแข็งแกร่งเมื่อเปรียบเทียบกับยุโรปและสหรัฐฯ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยและผลตอบแทนจากตราสารในกลุ่มประเทศเอเชียยังสูงกว่าตราสารในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว นับเป็นอีกโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากราคาตราสารหนี้ที่ปรับเพิ่มขึ้นภายใต้ภาวะดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มขาลง จากความพยายามในการกระตุ้นเศรษฐกิจของแต่ละประเทศอีกด้วยอีกทั้ง นอกจากนี้คาดการณ์ว่าสกุลเงินของกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าในอนาคตจากเงินทุนไหลเข้าของนักลงทุนต่างชาติ