ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 6.74 จุด หวั่นเจรจาหนี้กรีซไม่คืบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 31, 2012 06:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่กรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ก่อนการประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าหากการเจรจายืดเยื้อออกไปอีก ก็อาจทำให้กรีซมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 6.74 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 12,653.72 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 3.32 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 1,313.01 จุด ดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 4.61 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 2,811.94 จุด

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซมูลค่า 2 แสนล้านยูโรได้ก่อนที่การประชุมผู้นำอียูจะเริ่มขึ้นเมื่อวานนี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากกรีซใกล้จะถึงเวลาไถ่ถอนพันธบัตรจำนวนมหาศาลในวันที่ 20 มี.ค.นี้

การปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซมีเป้าหมายที่จะทำให้สัดส่วนหนี้สินปรับตัวดลลงจากระดับ 160% ของจีดีพี มาอยู่ที่ระดับ 120% ของจีดีพี ภายในปี 2563 ซึ่งเป็นระดับที่เจ้าหน้าที่ของอียูและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) มองว่า จะสามารถทำให้กรีซบริหารจัดการได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ยังคงยืดเยื้อ เนื่องจากยังไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องอัตราผลตอบแทน นอกจากนี้ กรีซยังได้ปฏิเสธข้อเสนอการปล่อยให้บุคคลภายนอกเข้ามาก้าวก่ายในเรื่องการใช้มาตรการรัดเข็มขัด

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคทรงตัวในเดือนธ.ค. ซึ่งตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคได้รับการจับตาจากตลาดอย่างใกล้ชิด เพราะคิดเป็นสัดส่วน 70% ของกิจกรรมโดยรวมทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์สามารถไต่ขึ้นจากการร่วงลงอย่างหนักในระหว่างวันได้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัสเปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตพุ่งขึ้นแตะระดับ 15.3 จุดในเดือนม.ค. จากระดับ -0.3 จุดในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่แข็งแกร่งกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่

ส่วนผลการประชุมอียูครั้งล่าสุดนี้ นายเฮอร์มาน ฟาน รอมปุย ประธานสภายุโรปเปิดเผยว่าประเทศสมาชิกอียูที่จะเข้าร่วมและลงนามในสนธิสัญญาด้านการคลังซึ่งมีเป้าหมายที่จะคุมเข้มวินัยด้านการคลังและหนี้สินนั้น มีอยู่ทั้งสิ้น 25 ประเทศด้วยกัน ขณะที่อังกฤษและสาธารณรัฐเชค ปฏิเสธที่จะลงนามในสนธิสัญญาดังกล่าว นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติรับรองข้อตกลงที่ทำขึ้นระหว่าง 17 ชาติสมาชิกยูโรโซน เกี่ยวกับสนธิสัญญาการจัดตั้งกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งเป็นกองทุนถาวรวงเงิน 5 แสนล้านยูโรที่จะเริ่มดำเนินการในเดือนก.ค.

หุ้นยูเอส แอร์เวย์ ดีดตัวขึ้น 4.2% หลังจากมีรายงานว่าสายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ กำลังพิจารณาเรื่องการเข้าซื้อกิจการยูเอส แอร์เวย์ อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ดิ่งลง 3.7%

หุ้นเอ็กซอนโมบิล ลดลง 0.4% หลังจากเอ็กซอนโมบิล ตกลงขายหุ้น 99% ในบริษัท เอ็กซอน โมบิล ยูเง็น ไกชะ ซึ่งเป็นธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงในญี่ปุ่น ให้กับบริษัท โทเนนเจนเนอรัล เซกิยุ เคเค มูลค่า 3.9 พันล้านดอลลาร์

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยต้นทุนการจ้างงานประจำไตรมาส 4/2554, สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยราคาบ้านเดือนพ.ย., สมาคมผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแห่งชาติ (NAPM) เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนม.ค. และคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนม.ค.

วันพุธ ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนม.ค., สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนธ.ค.

วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และเฟดจะเปิดเผยประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจำไตรมาส 4/2554 ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ