ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงหนักสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าที่ประชุมผู้นำสภาพยุโรป (อียู) จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้ได้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังที่การเจรจาหนี้กรีซยังไม่มีความคืบหน้า
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.1% ปิดที่ 252.52 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีร่วงลง 67.53 จุด หรือ 1.04% ปิดที่ 6,444.45 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสร่วงลง 53.12 จุด หรือ 1.6% ปิดที่ 3,265.64 จุด และดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 62.36 จุด หรือ 1.09% ปิดที่ 5,671.09 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงลังจากรัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซมูลค่า 2 แสนล้านยูโร ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากกรีซใกล้จะถึงเวลาไถ่ถอนพันธบัตรจำนวนมหาศาลในวันที่ 20 มี.ค.นี้
นอกจากนี้ ตลาดยังกังวลว่าที่ประชุมสุดยอดผู้นำอียูอาจจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะได้ โดยผลการประชุมดังกล่าวมีขึ้นหลังจากตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการ ซึ่งที่ประชุมมีมติรับรองข้อตกลงที่ทำขึ้นระหว่าง 17 ชาติสมาชิกยูโรโซน เกี่ยวกับสนธิสัญญาการจัดตั้ง ESM ซึ่งเป็นกองทุนถาวรวงเงิน 5 แสนล้านยูโรที่จะเริ่มดำเนินการในเดือนก.ค.
หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ร่วงลง 7.1% หุ้นโซซิเอเต เจนเนอราล (ซอคเจน) ร่วงลง 6.5%
หุ้นรอยัง ฟิลิปส์ อิเล็กทรอนิกส์ ร่วงลง 2.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนที่สูงกว่าการคาดการร์ของนักวิเคราะห์
หุ้น ThyssenKrupp AG และหุ้น Salzgitter AG ซึ่งเป็นสองผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของเยอรมนี ร่วงลง 3.6% และ 5.1% ตามลำดับ