นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะขยับตัวขึ้นไปในแดนบวกได้เล็กน้อยหลังจากที่เมื่อวานนี้ตลาดฯได้พักตัวในช่วงสั้น และคงจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะมีการฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย
ทั้งนี้ การประชุมสุดยอดผู้นำของประเทศในยุโรปที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ก็ยังไม่ได้มีอะไรออกมา แต่ตลาดฯก็คงยังจับตาดูเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซต่อไป แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่มีผลต่อตลาดหุ้นไทยเท่าไร อีกทั้งยังมีมุมมองไปในทางบวก จากการคาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯน่าจะออกมาในทางบวกโดยจะประกาศในวันศุกร์นี้ และเรื่องของอิหร่านเป็นประเด็นที่จะต้องติดตามดูต่อไป เพราะเรื่องนี้มีผลต่อราคาน้ำมันโลก
อย่างไรก็ดี ตลาดบ้านเราวันนี้ภาพโดยรวมคงจะอยู่ในลักษณะของการแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยมีกรอบการแกว่งที่ 1,070-1,080 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวานนี้(30 ม.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,653.72 จุด ลดลง 6.74 จุด(-0.05%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,313.01 จุด ลดลง 3.32 จุด(-0.25%) ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,811.94 จุด ลดลง 4.61 จุด(-0.16%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 142.28 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนมี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 98.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 78 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์เช้านี้เปิดที่ 9.76 เหรียญฯ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากวานนี้(30 ม.ค.)ที่ปิด 9.75 เหรียญฯ/บาร์เรล
- "กิตติรัตน์"เสนอ ครม.วันนี้ยืดเวลาชำระหนี้เงินกู้ออมสินสร้างเขื่อนจาก 7 ปี เป็น 15 ปี,"คลัง"หาช่องจัดสรรงบอุดหนุนนิคมฯ สร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมกำหนดวงเงิน 2 ใน 3 มูลค่าก่อสร้าง เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ สำนักงบยันกฎหมายเปิดทางทำได้ แต่ต้องโอนที่ดินให้หน่วยงานรัฐ เป็นพื้นที่สาธารณะเปิดประชาชนร่วมใช้ประโยชน์ ขณะที่ผู้ประกอบการนิคมฯ หนุนรัฐ ช่วยเงินทุนสร้างเขื่อน ยอมรับหากให้ผู้ประกอบการลงทุนเองต้องใช้งบสูง
- "กิตติรัตน์"ถก"ประสาร"ไร้ข้อสรุปเก็บเงินค่าธรรมเนียมแบงก์ คาดอีก 2 สัปดาห์เคาะตัวเลข ยันอัตราใกล้เคียงปัจจุบัน ลั่นไม่กระทบผู้ฝาก-ผู้กู้และผู้ถือหุ้น ด้าน"อภิศักดิ์"รับต้นทุนเพิ่มกระทบส่วนต่างดอกเบี้ย หวั่นโครงสร้างเพี้ยนเหมือนแบงก์ยุโรปจนกลายเป็นความเสี่ยงของระบบเศรษฐกิจ
- แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการสถานีบริการก๊าซแอลพีจีและก๊าซเอ็นจีวี เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.นี้ จะปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)ภาคขนส่งขึ้นอีกลิตรละ 41 สตางค์ หรือ 75 สตางค์ต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นการขึ้นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่รัฐบาลมีนโยบายทยอยขึ้นราคาก๊าซ และจะขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี)อีก 50 สตางค์ต่อกิโลกรัมเช่นกัน
- ทริสเรทติ้งชี้ 5 กลุ่มธุรกิจต้องจับตาเป็นพิเศษในปี 55 "กลุ่มที่อยู่อาศัย-นิคมฯ" รับผลกระทบน้ำท่วมยังยืดเยื้อข้ามปี ธุรกิจเกษตรและอาหาร-กลุ่มขนส่ง ได้รับผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่วนกลุ่มที่มีแนวโน้มสดใสคือกลุ่มก่อสร้าง-ค้าปลีก-พลังงาน เผยภาพรวมปี 54 ภาคเอกชนออกหุ้นกู้ 2.54 แสนล้าน มีธุรกิจที่ถูกปรับลดเครดิตลง 5 ราย
- จีดีพีปี 54 หดเหลือ 1.1% จากประมาณการที่ 4.5% หลังน้ำท่วมทุบเศรษฐกิจไตรมาส 4 ติดลบถึง 5.0% ระบุเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวแล้วในช่วงเดือนธันวาคมส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไตรมาสแรกของปีนี้มั่นใจผ่านจุดต่ำสุดที่เดือน พ.ค.มาแล้ว
- "สมชัย สัจจพงษ์"ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจในเดือน ธ.ค.2554 ที่ผ่านมาถือว่าดีขึ้นและเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าเศรษฐกิจไทยได้พ้นจุดต่ำสุดที่เกิดจากผลกระทบน้ำท่วมใหญ่ โดยเศรษฐกิจจุดต่ำสุดอยู่ที่เดือน พ.ย.2554 เพราะตัวเลขทางเศรษฐกิจในเดือน ธ.ค.ปรับตัวดีขึ้นทุกตัว ทั้งการบริโภคภาคเอกชน การเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ยอดการขายรถยนต์อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่ลดลง