โบรกเกอร์เชียร์หุ้น บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์(LPN)มองพื้นฐานอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง คาดรายได้จะสูงสุดทำสถิติใหม่ในปี 55 โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4/55 จากยอดขายรอโอน(backlog)ที่ยกมาจากสิ้นปี 54 สูงถึง 1.38 หมื่นล้านบาท ขณะที่คาดว่าการจ่ายปันผลสูง อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล(Divident Yield)ของปีนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 6.7%
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ไม่ได้กระทบโดยตรงกับโครงการของ LPN จึงเป็นจุดที่ทำให้มีผู้สนใจซื้อมากขึ้น โดยปี 55 จะมีการรับรู้รายได้จากการโอนคอนโดมิเนียมมาก ขณะที่ LPN มีแผนจะเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 11 โครงการ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รูปแบบคอนโดทาวน์-ทาวน์โฮม รวมทั้งมีการลงทุนต่อเนื่องในพัทยาหลังกระแสตอบรับดี
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 55 ในช่วง 2,100-2,149 ล้านบาท สูงขึ้นจากกำไรสุทธิปี 54 ที่ 1.9 พันล้านบาท โดยในปีหน้า LPN จะมีการรับรู้รายได้จาก Backlog ที่มีอยู่ในส่วนของคอนโดมิเนียมเป็นหลัก นอกจากนี้ยังได้รับผลบวกจากภาษีนิติบุคคลที่ลดเหลือ 23% จากเดิม 30% ด้วย
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
บล.เอเชีย พลัส ซื้อ 14.41
บล.บัวหลวง ซื้อ 14.40
บล.ฟินันเซียไซรัส ซื้อ 14.60
บล.กสิกรไทย ซื้อ 14.25
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า มีมุมมองในเชิงบวกต่อการเติบโตของ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์(LPN)ที่เติบโตต่อเนื่องทุกปีตามการขยายตลาดคอนโดมิเนียมไปในพื้นที่ต่างๆ ในกรุงเทพ ส่วนในปี 55-56 ปัจจัยที่สร้างการเติบโตจะเปลี่ยนเป็นการขยายฐานคอนโดออกสู่ต่างจังหวัด และการออกสินค้าทาวน์เฮ้าส์
ผลประกอบการงวด 4Q54 คาดว่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี 54 เพราะไม่มีการโอนฯ พร้อมรับรู้รายได้คอนโดใหม่ ส่วนเหตุการณ์น้ำท่วมไม่ได้สร้างความเสียหายต่อโครงการของ LPN ซึ่งผลกระทบมีเพียงการก่อสร้างล่าช้าออกไป 1-2 โครงการ เพราะติดปัญหาการขนส่งวัสดุก่อสร้าง
ขณะที่ยอด Backlog ณ สิ้นปี 54 จำนวน 1.38 หมื่นล้านบาท จะมีกำหนดรับรู้รายได้ในปี 55 กว่า 1.04 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 80% ของประมาณการรายได้ สนับสนุนรายได้-กำไรปี 55
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 54 ไว้ที่ 1.9 พันล้านบาท ส่วนปี 55 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิเพิ่มเป็น 2.1 พันล้านบาท โดยแนวโน้มกำไรรายไตรมาสคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ 1Q55-4Q55 โดยเฉพาะใน 4Q55 จะทำสถิติสูงสุด จากกำหนดการโอนคอนโดฯ ที่จะทยอยสร้างเสร็จ และปีนี้จะได้รับผลบวกจากภาษีนิติบุคคลที่ลดเหลือ 23% จากเดิม 30% ด้วย
LPN มีแผนพัฒนาโครงการใหม่ในปี 55 จำนวนทั้งหมด 11 โครงการ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท แบ่งการเปิดตัวเป็นไตรมาส 1/55 จำนวน 4 โครงการ, ไตรมาส 2/55 ประมาณ 4 โครงการ, ไตรมาส 3/55 อีก 3 โครงการ และไตรมาส 4/55 เป็นช่วงที่จะพิจารณาว่าจะมีการลงทุนโครงการใหม่เพิ่มมากน้อยเท่าใด โดยจะเป็นการลงทุนในหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด 1-2 แห่ง
ด้านนางสาวนฤมล เอกสมุทร นักวิเคราะห์ฝ่ายหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า จาดการพูดคุยระหว่างผู้บริหารของ LPN กับผู้จัดการกองทุนในประเทศ ผลตอบรับออกมาในเชิงบวกมาก โดยเชื่อมั่นว่าบริษัทจะเป็นผู้นำกลุ่มอสังหาฯในแง่ของการเติบโตของยอดจองซื้อในระยะกลาง สืบเนื่องจาก LPN ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดเมื่อเทียบในบรรดาผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จึงทำให้บริษัทมีโอกาสในการสร้างกลยุทธ์ได้รวดเร็วและโดดเด่นมากที่สุด
แผนการเปิดตัวโครงการในครึ่งแรกของปี 55 นั้นเป็นแบบเชิงรุก แนวโน้มรายได้ก็ชัดเจนที่สุดในกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุด 5 อันดับ ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลยังดูน่าสนใจ โดยเราคาดว่าอัตราตอบแทนจากเงินปันผลต่อปีจะอยู่ที่ 6.7% สำหรับครึ่งหลังของปี 55 และ 5.9%
สำหรับทั้งปี 55 แนวโน้มการเติบโตมีความเป็นไปได้สูง โดย LPN ให้แนวทางว่ารายได้จะสูงสุดทำสถิติใหม่ในปีนี้ รายได้คอนโดฯเติบโต 10% เป็น 13.2 พันล้านบาท และยอดจองซื้อเติบโต 12% เป็น 16 พันล้านบาท เราเชื่อว่าเป้าหมายดังกล่าวมีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากยอดจองสิ้นปี 54 รองรับเป้าหมายรายได้ของบริษัทไปแล้วถึง 80%
ทั้งนี้ รายได้จะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 4/55 มองว่า LPN โดยมีแผนรับรู้รายได้ 2 พันล้านบาทในไตรมาส 1/55, 1 พันล้านบาทในไตรมาส 2/55, 3.3 พันล้านบาทในไตรมาส 3/55 และสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 6-6.7 พันล้านบาทในไตรมาส 4/55 เบื้องต้นยอดจองซื้อที่แข็งแกร่งในครึ่งแรกของปีจะช่วยบรรเทาผลของรายได้ที่อ่อนตัวในครึ่งแรกของปีได้
ขณะที่บริษัท พรสันติ ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ LPNN ถือหุ้น 99.99% เปิดตัวโครงการทาว์นเฮ้าส์ที่จะช่วยหนุนรายได้ โดยจะเริ่มเปิดสองโครงการในไตรมาส 1/55 ที่รัชโยธินและลาดพร้าว ซึ่งการกระจายการลงทุนไปยังโครงการแนวราบเพื่อเป็น การกระจายความเสี่ยงและหนุนแนวโน้มยอดขายและรายได้ของ LPN ในระยะยาว
ด้าบทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซียไซรัส ระบุว่า ได้ปรับประมาณการราคาหุ้น LPN เพิ่มจากเดิม แม้ราคาหุ้นจะปรับขึ้นสูงในช่วงที่ผ่านมา แต่เพราะด้วยความเสี่ยงต่ำจาก Backlog รองรับแล้ว 85% ของเป้าหมายรายได้ปีนี้ LPN จึงเป็นหุ้นที่ยังน่าลงทุน
นอกจากนี้ ยังได้ปรับประมาณการกำไรในปี 55 เพิ่มขึ้น 11.4% จากเดิมเป็น 2,149 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.5 % Y-Y และปรับรายได้จากการโอนเพิ่มขึ้น 4.2% จากเดิมเป็น 13,877 ล้านบาท