SIRI เตรียมโรดโชว์ สิงคโปร์-ฮ่องกง 1-3 ก.พ.นี้ มั่นใจนลท.ให้ความสนใจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 31, 2012 12:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า ในวันที่ 1-3 ก.พ.บริษัทฯร่วมกับ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)เตรียมเดินทางไปประเทศฮ่องกงและสิงคโปร์ เพื่อนำเสนอข้อมูลของบริษัทฯ (โรดโชว์) ให้กับนักลงทุนต่างประเทศที่สนใจเพื่อรับฟัง คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากราคาหุ้นของบริษัทฯ ในช่วงที่ผ่านมามีการปรับตัวขึ้นและได้รับความสนใจจากนักลงทุน รวมทั้งจากการโรดโชว์ในปีที่ผ่านมาก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในหุ้นมากขึ้นเช่นเดียวกัน โดยปัจจุบันมีสัดส่วนนักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาถือหุ้นอยู่ที่ 24% จากเพดาน 39%

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมแผนการดำเนินธุรกิจและการลงทุนในปี 55 เพื่อไปให้ข้อมูลแก่นักลงทุน โดยจะเน้นในส่วนคาดการณ์รายได้ที่ตั้งเป้าหมายไว้ 28,000 ล้านบาทภายในปี 55 ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตที่ระดับ 40% เมื่อเทียบกับปี 54 รวมถึงการเปิดตัวโครงการใหม่ของบริษัทฯ ทั้งหมด จำนวน 44 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 46,000 ล้านบาท และความพร้อมในการรุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในทุกระดับตลาด

“สำหรับการโรดโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์และฮ่องกงในครั้งนี้ แสนสิริจะเน้นในเรื่องแผนการดำเนินธุรกิจ เป้าหมายรายได้และกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ และที่สำคัญคือการชูเรื่องความแตกต่างที่เหนือกว่าคู่แข่ง ซึ่งในปี 2555 บริษัทฯ จะรุกตลาดที่อยู่อาศัยครอบคลุมทุกเซ็กเม้นต์ ตั้งแต่ตลาดระดับบน (ไฮเอนด์) กลางและล่าง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงการเปิดโครงการใหม่ๆ ในทำเลหัวเมืองใหญ่ โดยมีมูลค่าโครงการรวมทั้งหมดกว่า 46,000 ล้านบาท และบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขาย (พรีเซล) อยู่ที่ 32,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปี 54 ที่มียอดขายที่ 22,000 ล้านบาท และจากผลประกอบการดังกล่าวที่ตั้งไว้ คาดว่าการโรดโชว์ในครั้งนี้ จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างประเทศเป็นจำนวนมาก"นายเศรษฐา กล่าว

วนอกจากกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้ที่แตกต่างและโดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วโรงงานผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป (precast) ที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี บนเนื้อที่กว่า 45 ไร่ ใช้งบประมาณลงทุนกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 55 นั้นจะยิ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจกับนักลงทุนมากขึ้น เนื่องจากการที่โรงงานดังกล่าวสามารถดำเนินการได้นั้นจะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถควบคุมต้นทุนการก่อสร้างได้ดีขึ้นและลดระยะเวลาการก่อสร้างได้สั้นลง มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้น และคาดว่าจะทำให้การทำกำไรของบริษัทฯเติบโตขึ้น โดยในไตรมาสแรกนี้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าสามารถสร้างยอดขายได้ที่ 10,000 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ