ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวขึ้น 58 จุด หรือ 0.5% มาแตะ 12,660 จุด ขณะที่สัญญาล่วงหน้า S&P 500 ปรับตัวขึ้น 0.4% แตะ 1,314.6 ณ เวลา 7.23 น. ตามเวลานิวยอร์ก หลังมีสัญญาความคืบหน้าว่าการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซอาจได้บทสรุปในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ตลาดมีมุมมองบวกมากขึ้นเกี่ยวกับการหารือข้อตกลงสวอปหนี้ของกรีซ หลังจากนายกรัฐมนตรีลูคัส ปาปาเดมอสของกรีซเผยว่า การเจรจากับเจ้าหนี้ภาคเอกชนของกรีซจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งช่วยฟื้นความหวังสำหรับข้อตกลงปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งได้ปิดฉากลงเมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมมีมติให้มีการใช้สนธิสัญญาการคลังฉบับใหม่ เพื่อคุมเข้มวินัยด้านการคลัง พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการจ้างงานในกลุ่มเยาวชนในยูโรโซน โดยมีเป้าหมายที่จะรับมือกับวิกฤตหนี้สาธารณะ
ด้านหุ้นของธนาคาร ซึ่งถูกกดดันจากปัญหาทางการเงินในยุโรปเช่นกันนั้น ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยก่อนเปิดตลาดซื้อขายหุ้นของบาร์เคลย์สที่จดทะเบียนในสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 1% ส่วนแบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป ปรับตัวขึ้น 1.1%
ส่วนหุ้นของอีไล ลิลลี แอนด์ โคปรับตัวขึ้น 1.5% หลังจากที่บริษัทรายงานผลกำไรสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นักลงทุนจะจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยต้นทุนการจ้างงานประจำไตรมาส 4/2554, สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยราคาบ้านเดือนพ.ย., สมาคมผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแห่งชาติ (NAPM) เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนม.ค. และคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนม.ค.