หุ้น TSTH ราคาไหลลง 2.20% มาอยู่ที่ 0.89 บาท ลดลง 0.02 บาท มูลค่าซื้อขาย 2.54 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.19 น. โดยเปิดตลาดที่ 0.90 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 0.90 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.89 บาท
บมจ.ทาทา สตีล(ประเทศไทย)หรือ TSTH และบริษัทย่อย ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/54-55 ขาดทุนสุทธิ 942.99 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.112 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 676.79 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.0804 บาท
พร้อมชี้แจงว่า บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิสำหรับไตรมาสที่ 3/2554 - 2555 (ตุลาคม - ธันวาคม 2554)เป็นจำนวนเงิน 943 ล้านบาท (ไตรมาสที่ 2/2554 - 2555 มีขาดทุนสุทธิเป็นจำนวนเงิน 399 ล้านบาท) ขาดทุนเพิ่มขึ้น 544 ล้านบาท สาเหตุหลักเนื่องมาจากต้นทุนขายเพิ่มขึ้นตันละ 1,700 บาท จากปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือลดลงตามราคาตลาด จำนวน 276 ล้านบาท ขณะที่ราคาขายเพิ่มขึ้นตันละ 300 บาท และไตรมาสนี้บริษัทได้ปรับลดมูลค่าภาษีเงินได้รอตัดบัญชี จำนวน 267 ล้านบาท เนื่องจากการลดลงของอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล
ทั้งนี้ งวดไตรมาส 3 (ตุลาคม - ธันวาคม) บริษัทได้รับผลกระทบจากหลายธุรกิจหยุดชะงัก เนื่องจากได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในประเทศไทย ปริมาณขายเฉลี่ยไตรมาส 2 (กรกฏาคม - กันยายน) จำนวน 103,000 ตันต่อเดือน ลดลงเหลือ 218,000 ตัน ในไตรมาส 3 (ตุลาคม - ธันวาคม) เป็นของเดือนตุลาคม และพฤศจิกายน 62,000 ตัน และ 72,000 ตัน ตามลำดับ บริษัทปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือในวัตถุดิบของเตา Mini Blast Furnace (MBF) ตามราคาตลาด จำนวน 276 ล้านบาท และปรับลดมูลค่าภาษีเงินได้รอตัดบัญชี จำนวน 267 ล้านบาท จากรัฐบาลประกาศลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล และสินค้าเหล็กนำเข้าชนิดเหล็กลวดคาร์บอนต่ำผสมสารโบรอน ชนิดเหล็กลวดเกรดพิเศษผสมสารโครเมียม ซึ่งได้รับประโยชน์จากมาตราการการลดหย่อนภาษี มาแข่งในตลาดสินค้าเหล็กลวด การเพิ่มขึ้นของราคาเศษเหล็กส่งผลต่อราคาขายสินค้า ปัจจัยเหล่านี้กระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3 (ตุลาคม - ธันวาคม)