(เพิ่มเติม) ส.ตราสารหนี้ คาดปี 55 เอกชนออกหุ้นกู้ 2.5-3 แสนลบ.จาก 2.1 แสนลบ.ปี 54

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 1, 2012 16:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบัณฑิต นิจถาวร ประธานสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)คาดว่าในปี 55 ภาคเอกชนจะระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้ประเภทหุ้นกู้ราว 2.5-3.0 แสนล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนที่มีการออกหุ้นกู้ 2.12 แสนล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมในปีก่อนอาจะทำให้บริษัท อย่างเช่น อิเล็คทรอนิกส์และอสังหาริมทรัพย์ต้องการระดมทุนเพิ่มเติม และแผนการลงทุนที่ภาคธุรกิจต่าง ๆ วางไว้ในช่วงปลายปีที่แล้วต้องเลื่อนมาเป็นปีนี้แทน

นอกจากนั้น แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยปรับลดลง ทำให้ต้นทุนการระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ลดลงด้วย จูงใจให้เอกชนออกหุ้นกู้เพิ่มขึ้นในปีนี้ รวมทั้ง พ.ร.ก.โอนหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงินที่จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากธนาคารเพิ่ม อาจจะส่งผ่านไปยังผู้บริโภค ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากกว้างขึ้น เมื่อต้นทุนกู้แบงก์แพง ตลาดตราสารหนี้จะเป็นทางเลือกระดมทุนที่มีต้นทุนไม่สูง เมื่อเทียบกับการกู้จากสถาบันการเงิน

ส่วนการระดมทุนของภาครัฐ จากแผนการออกพันธบัตรในปีงบประมาณ 2555 คาดว่าในช่วง 9 เดือนของปีนี้จะมีพันธบัตรรัฐบาลออกประมูลใหม่อีก 5 แสนล้านบาท นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนกู้เงินเพื่อลงทุนในระบบบริหารจัดการน้ำอีก 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งเชื่อว่า รัฐบาลจะใช้เงินกู้ระยะยาว และคงต้องใช้ตลาดตราสารหนี้เป็นแหล่งระดมทุน จึงน่าจะทำให้ตลาดตราสารหนี้ใหม่ปีนี้ขยายตัวต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน เชื่อว่าเม็ดเงินจากต่างประเทศน่าจะไหลเข้าสู่ตลาดเอเชียในครึ่งปีหลัง หากปัญหาหนี้ยูโรปคลี่คลายในครึ่งปีแรก ซึ่งเงินลงทุนส่วนหนึ่งก็จะเข้ามาในตลาดตราสารหนี้ไทยด้วย โดยปัจจุบัน สัดส่วนการถือครองของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดตราสารหนี้ไทยเพียง 6% ยังมีช่องทางที่จะเข้ามาลงทุนได้อีก

"ปีนี้ มีปัจจัยบวกเหล่านี้ ส่งเสริมให้ตลาดตราสารหนี้น่าจะโตต่อเนื่องได้"นายบัณฑิต กล่าว

ส่วนอัตราดอกเบี้ยจะลงหรือไม่ขึ้นกับเศรษฐกิจฟื้นตัวหรือไม่ แต่จากตัวเลขเศรษฐกิจเดือน ธ.ค. ก็เห็นว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นมาค่อนข้างเร็วจากเดือน พ.ย.

ด้านนายนิวัตน์ กาญจนภูมินทร์ กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย กล่าวว่า สมาคมฯ จะผลักดันให้เอกชนระดมทุนผ่านตราสารหนี้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนมีกว่า 400 บริษัทแต่เข้ามาระดมทุนผ่านหุ้นกู้เพียง 70-80 บริษัทเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม การเข้ามาตลาดตราสารหนี้มีอุปสรรค เช่น การจัดอันดับเครดิต รวมทั้งการเก็บภาษี capital gain จากกำไรในการซื้อขายตราสารหนี้ ซึ่งขณะนี้สมาคมฯได้หารือเบื้องต้นกรมสรรพากรเพื่อขอให้มีการยกเว้นภาษีดังกล่าวให้แก่นักลงทุนรายย่อย แต่เห็นชอบด้วยหรือไม่ก็ต้องหารือกันต่อไป โดยหากได้รับการยกเว้นก็เชื่อว่าจะทำให้สภาพคล่องในตลาดรองตราสารหนี้ดีขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ