นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY)คาดว่า รายได้ของบริษัทในปี 55 จะสูงขึ้นทะลุ 1 หมื่นล้านบาท และมีกำไรเติบโตก้าวกระโดด โดยเห็นแนวโน้มการปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี ซึ่งในปีนี้บริษัทจะรุกขยายธุรกิจทีวีดาวเทียมเป็นหลัก
สำหรับผลประกอบการของปี 54 บริษัททำรายได้กว่า 8 พันล้านบาท และกำไรสุทธิกว่า 600 ล้านบาท แม้ว่าในไตรมาส 4/54 จะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากปัญหาน้ำท่วม และทำให้ผลประกอบการทั้งปี 54 ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ก็ยังถือว่ามีผลประกอบการดีมากและมีกำไรเติบโตเป็นสถิติสูงสุด
"ไตรมาส 4 ช่วงน้ำท่วม บริษัทรายได้หายไปกว่าพันล้านบาท กำไรหายไป 200 กว่าล้าน แต่ยังโชคดีที่ 3 ไตรมาส บริษัทมีกำไรไปแล้วกว่า 600 ล้าน ทั้งปีกำไรจึงเติบโตทำสถิติสูงสุด ส่วนในไตรมาส 1/55 แนวโน้มเริ่มดี โดยเดือนม.ค.ดีมากๆ เชื่อว่าปี 55 จะดีต่อเนื่องจากปีก่อน"นายไพบูลย์ กล่าว
ประธานกรรมการ GRAMMY กล่าวว่า แผนธุรกิจที่สำคัญในปีนี้คือการรุกธุรกิจทีวีดาวเทียม"วันสกาย"โดยจะมีการขายกล่องรับสัญญาณให้กับผู้ที่ต้องการรับบริการ ซึ่งทีวีดาวเทียมของบริษัทจะมีรายการและคอนเท้นท์ที่หลากหลายทั้งบันเทิง กีฬา เพลง รวมทั้งภาพยนตร์
ปัจจุบัน วันสกาย มีทุนจดทะเบียน 1 พันล้านบาท ซึ่ง GRAMMY ถือหุ้น 100% โดยบริษัทมีแผนจะลดสัดส่วนการถือหุ้นให้กับพันธมิตร ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับนักลงทุนจีน ไทย สหรัฐ และญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือน มี.ค.นี้ แต่ทั้งนี้ GRAMMY ยังต้องการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และควบคุมอำนาจการบริหารทั้งหมด ขณะที่พันธมิตรจะเข้ามาร่วมผลิตสื่อและคอนเท้นท์ รวมทั้งช่วยส่งเสริมด้านการตลาดซึ่งกันและกัน
บริษัทจะมีการพัฒนาคอนเทนท์ในบริการ"วันสกาย"อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายจะเข้าชิงลิขสิทธิ์ถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษในฤดูกาลแข่งขันหน้า จากเดิมที่"ทรู วิชั่นส์"ถือครองลิขสิทธิ์อยู่ แต่ล่าสุด GRAMMY ก็ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลเยอรมันบุนเดสลีกา ตั้งแต่ ส.ค.55 จนถึงปี 58 เป็นเวลา 3 ปีแล้ว
นายไพบูลย์ กล่าวว่า GRAMMY จะเดินหน้าเรื่องลิขสิทธิ์กีฬาเพื่อทำการตลาดในวันสกาย แม้จะยอมรับว่าบริษัทต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์หลักพันล้านบาท แต่เชื่อว่าจะสามารถทำการตลาดผ่านวันสกายได้ดีขึ้น ควบคู่กับสื่อบันเทิงที่มีอยู่ในมือครบวงจร และเชื่อว่าจะมีรายได้จากสปอนเซอร์เข้ามาเสริมด้วย