โบรกฯเห็นพ้อง"ซื้อ"TOP เล็งงบ Q1/55 ดีขึ้น,ปีนี้ยูโร 4-ภาษีฯดันกำไรโต

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 2, 2012 09:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น บมจ.ไทยออยล์(TOP)เล็งผลการดำเนินงานไตรมาส 1/55 ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากธุรกิจโรงกลั่นรับผลดีค่าการกลั่นดีดตัว และธุรกิจอะโรเมติกส์ที่ราคาพาราไซลีน(Px)ฟื้น

หากมองทั้งปี 55 TOP มีจุดเด่นในเรื่องยูโร 4 คาดว่าจะมีกำไรหลังหักภาษีแล้วและคิดกำไรเฉพาะในส่วนของยูโร 4 จะมีประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท/ปี อีกทั้งยังได้รับประโยชน์จากภาษีนิติบุคคลที่ลดลงเหลือ 23% ด้วย ทำให้ TOP น่าจะมีกำไรเพิ่มประมาณ 1,000 ล้านบาท

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิของ TOP ปี 55 ในช่วง 13,800-16,719 ล้านบาท จากปีก่อนคาดว่าจะมีกำไรสุทธิในช่วง 15,000-15,189 ล้านบาท เนื่องจากปี 54 มี Stock Gain เกิดขึ้นประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท

สำหรับการซื้อโรงกลั่น ESSO มองว่ายังเป็นแผนระยะไกล แต่ถ้าหากเกิดขึ้นจริงก็จะทำให้ TOP มี upside ขึ้น จากกำลังการผลิตของ ESSO ซึ่งธุรกิจน่าจะเกื้อหนุนกันได้ดี

          โบรกเกอร์            คำแนะนำ     ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บล.ไทยพาณิชย์           ซื้อ              95.00
          บล.ยูโอบี เคย์เฮียน       ซื้อ              93.00
          บล.กสิกรไทย            ซื้อ              89.00
          บล.ทิสโก้               ซื้อ              83.00
          บล.โนมูระ พัฒนสิน        ซื้อ              76.00
          บล.บัวหลวง             ซื้อ              79.00
          บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)    ซื้อ              76.50
          บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) ซื้อ              76.00
          บล.ฟินันเซีย ไซรัส        ซื้อ              71.00
          บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ     ซื้อ              71.00
          บล.เกียรตินาคิน          ซื้อ              70.00
          บล.ทรีนีตี้               ซื้อ              68.00
          บล.คันทรี่ กรุ๊ป           ซื้อ              68.00

นายชัยพัชร ธนวัฒโน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า จัดให้หุ้น TOP เป็นหุ้นตัวหนึ่งในกลุ่ม Top Picks ของไตรมาส 1/55 เนื่องจากมองว่าธุรกิจโรงกลั่น และธุรกิจอะโรเมติกส์จะมี outlook ที่ดีในไตรมาส 1/55

โดยธุรกิจโรงกลั่น คาดว่าค่าการกลั่นจะปรับตัวดีขึ้นในปี 55 ค่าการกลั่นตลาดสิงโปร์น่าจะยืนอยู่เหนือ 7-8 เหรียญฯ/บาร์เรล จากระดับเฉลี่ยของปี 54 อยู่ที่ 8.25 เหรียญฯ/บาร์เรล ส่วนธุรกิจอะโรเมติกส์ในไตรมาส 1/55 น่าจะมี outlook ที่ดีขึ้น จากการคาดการณ์ว่าราคาพาราไซลีน(Px)จะดีขึ้นหลังตรุษจีน หากเป็นจริงจะทำให้กำไรของ TOP ดีดกลับขึ้นมา โดยตอนนี้ราคา Px และสเปรดก็ถือว่าค่อนข้างดีแล้ว โดยล่าสุดราคา Px อยู่ที่ 1,593 เหรียญฯ/ตัน เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยของไตรมาส 4/54 ที่ 1,468 เหรียญฯ/ตัน

สำหรับประเด็นแผนการซื้อ ESSO มองว่ายังเป็นแผนระยะไกล แต่ถ้าหากเกิดขึ้นจริงก็จะทำให้ TOP มี upside ขึ้น จากกำลังการผลิตของ ESSO ที่ปัจจุบันใช้กำลังการผลิตแค่ 70% ของทั้งหมด เป็นไปตามนโยบายของบริษัทแม่ ดังนั้น หาก TOP เข้ามาก็จะสามารถปรับแผนการผลิตใหม่ได้ และเติมเต็มซึ่งกันและกัน ขณะเดียวกัน ESSO ก็มี Px ด้วย ซึ่งก็น่าจะมี outlook ที่ดีเช่นกัน จึงมองว่าธุรกิจน่าจะเกื้อหนุนกันได้ดี

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิของ TOP ในปี 55 ไว้ที่ 13,800 ล้านบาท ขณะที่ปีที่แล้วคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 15,000 ล้านบาท เนื่องจากในปี 54 มี Stock Gain เกิดขึ้นประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท

ด้านนายสุวัฒน์ สินสาฎก ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) ให้เหตุผลว่า ปีนี้ในแง่ของการดำเนินงานของ TOP อยู่ในเกณฑ์ที่ดีพอ ๆ กับปีที่แล้วทั้งในส่วนของโรงกลั่น และธุรกิจปิโตรเคมี

จุดเด่นของ TOP ในปี 55 จะเป็นเรื่องของ"ยูโร 4 พรีเมียม"ที่รัฐบาลอนุญาตให้มีการปรับขึ้นราคาได้ ในปีที่ผ่านมารัฐชดเชยให้ 0.24 บาท/ลิตร และปีนี้ก็เริ่มมีการบังคับใช้ทำให้โรงกลั่นต้องปรับราคาขายขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันโรงกลั่นก็ขึ้นอยู่ประมาณ 0.5 บาท/ลิตร ซึ่ง TOP ได้ผลิตตามมาตรฐานยูโร 4 กว่า 60% ดังนั้น จึงคาดว่า TOP มีกำไรหลังหักภาษีแล้วและคิดกำไรในส่วนเฉพาะยูโร 4 จะมีประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท/ปี ในส่วนตรงนี้เชื่อว่าตลาดฯยังไม่รับรู้เท่าไรนัก

นอกจากนี้ ปีนี้ TOP ก็ยังจะได้รับประโยชน์จากภาษีนิติบุคคลที่ลดลงเหลือ 23% ด้วย ซึ่งจะทำให้ TOP มีกำไรจากตรงนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิของ TOP ปีนี้ที่ 16,719 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 15,189 ล้านบาท ซึ่งในปี 54 TOP มี Stock gain มากกว่า 2,000 ล้านบาท แต่หากคิดกำไรจากการดำเนินงานปกติจะมีประมาณ 13,000 ล้านบาท ดังนั้นจะเห็นได้ว่าปีนี้กำไรของ TOP จะมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง

สำหรับการซื้อ ESSO แม้ว่า TOP จะสนใจ แต่ ESSO ยังไม่ยอมขายให้ แต่ถ้าเมื่อไรบริษัทแม่ตกลงขายให้วันไหนวันนั้นก็สำเร็จผลก็จะเป็นผลดีต่อ TOP

ส่วนนายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.คันทรี กรุ๊ป กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของ TOP ในไตรมาส 1/55 จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/54 เนื่องจากค่าการกลั่นที่ดีขึ้น และยังได้รับประโยชน์จากยูโร 4 ด้วย ส่วนธุรกิจอะโรเมติกส์ก็ดีขึ้น จากที่ราคา Px ดีขึ้น

ทั้งนี้ หากมองกำไรจากการดำเนินงานของ TOP ในปีนี้(2555)ก็จะสูงขึ้น รับผลจากยูโร 4 ทำให้ฐานกำไรของ TOP เพิ่มขึ้น และค่าการกลั่นก็คาดว่าปีนี้จะสูงกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย รวมทั้งยังได้รับประโยชน์จากภาษีนิติบุคคลที่ลดลงเหลือ 23% อีกด้วย ดังนั้น จึงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 55 ไว้ที่ 1.42 หมื่นล้านบาท(ไม่รวม Stock gain) ขณะที่ปี 54 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 1.49 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีการรับรู้จาก Stock gain ประมาณ 3,000 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ