นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 21(KTFF21)ในวันที่ 6-10 ก.พ.นี้ อายุโครงการ 1 ปี มูลค่า 5,000 ล้านบาท ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 4.00%ต่อปี โดยไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย และเงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
กองทุนจะลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศทั้ง 100% ประกอบด้วย เงินฝากประจำ Abu Dhabi Commercial Bank(ADCB)เป็นธนาคารพาณิชย์ใหญ่อันดับ 3 ของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอันดับ 2 ในอาบูดาบี โดยมีองค์กรเพื่อการลงทุนของรัฐบาลอาบูดาบี เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่, เงินฝากประจำ Union National Bank(UNB)เป็นธนาคารพาณิชย์ที่ดำเนินกิจการในสหรัฐอาหรับแอมิเรตส์ ถือหุ้นใหญ่โดยองค์กรเพื่อการลงทุนของภาครัฐอาบูดาบี, เงินฝากประจำ Bank of China มีสถานะเป็นธนาคารภาครัฐถือหุ้นใหญ่โดยหน่วยงานเพื่อการลงทุนของรัฐบาลจีน
นอกจากนี้ กองทุนยังลงทุนใน MTN ของ Banco do brasil เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่ที่สุดในบราซิล, Banco ltau BBA S.A.(ITAU)เป็นธนาคารพาณิชย์ในกลุ่ม ltau Unibanco ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่อันดับ 3 ในประเทศบราซิล, HANA Bank สกุล USD เป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อันดับ 4 ในแง่ของฐานสินเชื่อในเกาหลีใต้ และ ICBC Asia Ltd.(ICBCA) เป็นธนาคารพาณิชย์พาณิชย์ที่เปิดดำเนินธุรกิจในฮ่องกง โดยมี ICBC ของธนาคารใหญ่อันดับหนึ่งของจีนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
สำหรับอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศทั้งในรูปเงินฝาก หรือตราสารการเงินระยะสั้น เมื่อมีการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ยังให้ผลตอบแทนในระดับที่ดีกว่าการลงทุนในประเทศ เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของดอลล่าร์พรีเมี่ยมจากการทำอัตราแลกเปลี่ยนสวอประหว่างสกุลเงินบาทและสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือสกุลเงินต่างประเทศอื่น เพราะตลาดการเงินเริ่มคลายความวิตกเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจและหนี้สาธารณะในยุโรป รวมถึงสหรัฐอเมริกา มีการทยอยประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทิศทางดังกล่าว จึงเป็นโอกาสสำหรับการลงทุนในต่างประเทศ ที่มีระยะเวลายาวขึ้น ในช่วงเวลา