นางสาวอารยา ธีระโกเมน กรรมการอำนวยการ บลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า บลจ.ทิสโก้ในฐานะบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำของประเทศไทยมีวิสัยทัศน์ในการมุ่งออกแบบความมั่งคั่งด้วยการบริการบริหารจัดการกองทุนอย่างครบวงจรทั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนส่วนบุคคล และกองทุนรวม โดยปัจจุบันมีสินทรัพย์รวมภายใต้การบริหาร (AUM) มากกว่า 130,000 ล้านบาท และมีจำนวนกองทุนภายใต้การบริหารมากกว่า 500 กองทุน โดยสามารถครองตำแหน่ง 3 อันดับแรกในธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมาได้โดยตลอด รวมถึงครองแชมป์ที่มีจำนวนลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้ความไว้วางใจบริหารจัดการเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสูงสุดตลอดมา
ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาของการเป็นผู้นำในธุรกิจจัดการกองทุน บลจ.ทิสโก้ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อประสิทธิภาพในการบริหารงานและการให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าโดยล่าสุดได้ร่วมมือกับผู้นำด้านการให้บริการซอฟต์แวร์เพื่อจัดการการลงทุนรายใหญ่ของโลก ได้แก่ "ชาร์ลส์ ริเวอร์ ดีเวลอปเม้นต์"เข้ามาวางระบบจัดการการลงทุนให้มีประสิทธิภาพและคล่องตัวยิ่งขึ้น รวมถึงเพื่อรองรับการเปิดเสรีบริการทางการเงินของกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ในปีนี้ ซึ่งจะทำให้มีการแข่งขันมีความรุนแรงมากขึ้น
ทั้งนี้ ระบบจัดการการลงทุนของชาร์ลส์ ริเวอร์ (Charles River IMS) เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ผู้จัดการกองทุน (Fund Manager)บริหารกองทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเป็นระบบอัตโนมัติที่สามารถบริหารจัดการพอร์ตลงทุนและคำสั่งซื้อขายแบบออนไลน์รวมถึงการตรวจสอบและการติดตามการปฏิบัติตามระบบ (Compliance testing and monitoring) แบบเรียลไทม์สำหรับการลงทุนในทุกประเภทตราสาร ที่รองรับการลงทุนในตราสารหลายหลากที่มีความซับซ้อน และยังสามารถรองรับโมเดลการลงทุนของกองทุนทุกประเภท ทั้งกองทุนส่วนบุคคล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนรวม ที่บริหารจัดการอยู่กว่า 500 กองทุน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ ช่วยลดเวลาและความผิดพลาดในการป้อนข้อมูล ทำให้ผู้จัดการกองทุนสามารถมุ่งความสนใจไปที่การบริหารพอร์ตลงทุน ซึ่งเป็นงานหลักได้อย่างเต็มที่
"เราจะเริ่มใช้ระบบนี้อย่างเป็นทางการในปีนี้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่เรานำมาใช้เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต โดยมุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการในการลงทุนที่มีความหลากหลายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าHigh Networth ที่มีการขยายตัวอย่างโดดเด่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความต้องการการลงทุนแบบเฉพาะตัว รวมถึงเพื่อเป็นการรองรับการแข่งขันจากการเปิดเสรีบริการทางการเงินของอาเซียนในปีนี้ ซึ่งจะทำให้การลงทุนในต่างประเทศเป็นไปโดยสะดวกยิ่งขึ้น โดยระบบการจัดการลงทุนดังกล่าวสามารถรองรับการลงทุนในต่างประเทศได้ทุกสกุลเงิน และตราสารทางการเงินทุกประเภท ซึ่งเอื้อต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุนต่างๆโดยเฉพาะกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ที่ทาง บลจ.ทิสโก้เป็นผู้นำตลาดดังกล่าว ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกผลิตภัณฑ์การลงทุนได้หลากหลายมากขึ้น รวมถึงเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับกฏเกณฑ์ข้อบังคับทางการเงินใหม่ๆ ได้ทุกรูปแบบ"
ชาร์ลส์ ริเวอร์ ดีเวลอปเมนต์ให้บริการแก่บริษัทลูกค้ากว่า 300 บริษัททั่วโลก ซึ่งรวมถึงสถานประกอบการของลูกค้ากว่า 100 แห่งของบริษัทในระดับประเทศและระดับนานาประเทศใน ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม