ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำสัปดาห์: มีมูลค่าการซื้อขายรวม 375,779 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 6, 2012 14:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (30 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ 2555) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้มีมูลค่ารวม 375,779 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 75,156 ล้านบาท ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ประมาณ 8% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้วจะพบว่ากว่า 84% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 316,449 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (State Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ในขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 45,776 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 7,262 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12% และ 2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ

สำหรับพันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือ รุ่น LB15DA (อายุ 3.8 ปี), LB176A (อายุ 5.4 ปี) และ LB193A (อายุ 7.1 ปี) มีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 8,317 ล้านบาท 6,179 ล้านบาท และ 5,895 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนพันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือรุ่น CB12221A (อายุ 14 วัน), CB12214A (อายุ 14 วัน) และ CB12301C (อายุ 28 วัน) มูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 124,392 ล้านบาท 24,876 ล้านบาท และ 23,131 ล้านบาท ตามลำดับ

ทางด้านหุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกนั้น ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPCT147A (A-)) มูลค่าการซื้อขาย 1,008 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน)(AYCAL12OA (A+)) มูลค่าการซื้อขาย 856 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (GLOW194A (A)) มูลค่าการซื้อขาย 577 ล้านบาท

เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield Curve) ปรับตัวลดลงเล็กน้อย หรือโดยเฉลี่ยแล้วลดลงอยู่ในช่วงประมาณ -1 ถึง -5 Basis Point (100 Basis point มีค่าเท่ากับ 1%) ซึ่งภาพรวมของตลาดตราสารหนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่อนข้างเงียบเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า โดยมูลค่าการซื้อขายปรับตัวลดลงประมาณ 8% อย่างไรก็ตามยังคงมีแรงซื้อจากนักลงทุนทั้งในประเทศและนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาในตลาดตราสารหนี้อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ค่าเงินบาทมีทิศทางแข็งค่าขึ้น ตามค่าเงินในภูมิภาค แรงซื้อเหล่านี้ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในตลาดปรับตัวลดลง (ราคาเพิ่มขึ้น)

ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติมียอด ซื้อสุทธิ 19,373 ล้านบาทในตลาดตราสารหนี้ โดยที่มูลค่าการซื้อขายส่วนใหญ่ของนักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงเน้นไปในตราสารระยะสั้น (มีอายุคงเหลือน้อยกว่า 1 ปี) เป็นหลัก จึงไม่ได้ส่งผลต่อภาพรวมของการซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดมากเท่าใดนัก และสำหรับนักลงทุนรายย่อย ที่ถึงแม้จะมีสัดส่วนของการซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดค่อนข้างน้อย แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงมียอดซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่องประมาณ 381 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ