บมจ.ปตท (PTT) เปิดเผยว่าบริษัทให้ความสนใจในการจัดตั้งกลุ่มโรงงานของเครือ ปตท.ในต่างประเทศลักษณะเดียวกับที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยพิจารณาในกลุ่มประเทศแถบอาเซียน และทวีปอเมริกาเหนือ ขณะที่โครงการลงทุนในพม่าคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้
นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย PTT เปิดเผยว่า กลุ่มปตท.สนใจทำโครงการลักษณะใกล้เคียงกับนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยเป็นการลงทุนร่วมกันของกลุ่ม ซึ่งมีหลายพื้นที่ที่น่าสนใจ อาทิ อินโดนีเซีย เวียดนาม พม่า กัมพูชา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของปตท. รวมทั้งมีการลงทุนมาก่อนหน้านี้แล้ว และอีกส่วนที่น่าสนใจคื่อทวิปปอเมริกาเหนือที่ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP)เข้าไปลงทุนโครงการออยล์ แซนด์ เคเคดี ในแคนาดา
"โครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ในแผน 5-10 ปีของบริษัท และแผนการขยายไปต่างประเทศ แต่เราต้องการลงทุนในทุกแขนงที่เราถนัด และต้องสำรวจพื้นที่ให้แน่ใจเสียก่อนว่ามีศักยภาพเพียงพอ"นายณัฐชาติ กล่าว
สำหรับการเข้าไปซื้อกิจการ(M&A)นั้น นายณัฐชาติ กล่าวว่า บริษัทยังคงศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการที่ใกล้สรุป คือการลงทนโครงการในพม่า ซึ่งโอกาสเปิดสำหรับหลายๆประเทศให้เข้าไปลงทุน ดังนั้น ปตท.ซึ่งเคยลงทุนในพม่ามาก่อน ก็เห็นโอกาสนี้เช่นเดียวกัน และต้องรีบศึกษาเพื่อให้ได้ข้อสรุปจะได้ทันคู่แข่ง
ด้านนายสรัญ รังคสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน PTT เปิดเผยว่า ปตท.สนใจลงทุนในบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด เพิ่มเติม โดยต้องการถือหุ้นมากกว่า 50% จากปัจจุบันถือหุ้นอยู่ 33% และเมื่อรวมกับที่บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ถืออยู่ราว 10% รวมแล้วกว่า 40%
เนื่องจาก ปตท.ต้องการมีอำนาจควบคุมในกิจการท่อส่งปิโตรเลียม และแก้ไขข้อบังคับในการจัดส่งปิโตรเลียมที่ต้องเป็นผู้ถือหุ้นเท่านั้น โดยเชื่อว่าธุรกิจท่อส่งปิโตรเลียม มีโอกาสเติบโต และ ปตท.ก็มีแนวคิดที่จะขยายท่อส่งก๊าซไปยังภาคเหนือและภาคอีสานด้วย โดยคาดว่าจะใช้เวลาเพื่อสรุปการลงทุนภายใน 1 เดือน