ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกกรีซผิดนัดชำระหนี้ ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 17.10 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 7, 2012 06:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ หลังจากการเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซต้องยืดเยื้อออกไป นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของยูโรสแตทที่ระบุว่า ตัวเลขหนี้สาธารณะของกรีซอยู่ในระดับสูงสุดในกลุ่มยูโรโซน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 17.10 จุด หรือ 0.13% แตะที่ 12,845.13 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 0.57 จุด หรือ 0.04% แตะที่ 1,344.33 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 3.67 จุด หรือ 0.13% แตะที่ 2,901.99 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงหลังจากสำนักนายกรัฐมนตรีกรีซเปิดเผยว่า การเจรจาเรื่องมาตรการรัดเข็มขัดและการปฏิรูปการคลังระหว่างนายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรี กับบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลกรีซ จะเลื่อนออกไปเป็นวันอังคาร จากเดิมที่มีกำหนดหารือกันในช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น

การประกาศเลื่อนการประชุมดังกล่าวมีขึ้น แม้ว่ากรีซกำลังได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากสหภาพยุโรป (อียู) ให้เร่งบรรลุข้อตกลงที่มีความสำคัญอย่างยิ่งให้ได้โดยเร็ว เพราะจะเป็นการเปิดทางให้กรีซสามารถขอรับความช่วยเหลือทางการเงินรอบใหม่จากอียูและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพื่อที่จะช่วยให้กรีซหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ที่จวนจะมาถึงในเดือนหน้านี้ได้

ผู้นำอียูได้เรียกร้องให้กรีซจัดทำแผนลดรายจ่ายเพิ่มเติมเพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือมูลค่า 1.30 แสนล้านยูโร (1.7 แสนล้านดอลลาร์) จากอียูและไอเอ็มเอฟ รวมถึงการที่เจ้าหนี้ภาคเอกชนจะยอมล้างหนี้จำนวน 1 แสนล้านยูโร ซึ่งรัฐบาลกรีซจำเป็นที่จะต้องได้รับเงินจำนวนดังกล่าวเพื่อช่วยให้ประเทศหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ภายในเดือนมีนาคม โดยกรีซมีกำหนดที่จะต้องชำระเงินกู้คืนเจ้าหนี้เอกชนเป็นจำนวน 1.44 หมื่นล้านยูโร ในวันที่ 20 มีนาคมนี้

ปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซกำลังกลายเป็นประเด็นที่สร้างความวิตกกังวลในวงกว้าง โดยรายงานล่าสุดของสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท ระบุว่า ตัวเลขหนี้สาธารณะของกรีซพุ่งขึ้นสู่ระดับ 159.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2554 เพิ่มขึ้นจากระดับ 154.7% ของจีดีพี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในกลุ่มยูโรโซน และสะท้อนให้เห็นว่ากรีซยังคงเผชิญกับภาระหนี้สินมูลค่ามหาศาล แม้รัฐบาลพยายามลดการใช้จ่ายลงจำนวนมากก็ตาม

หุ้นโบอิ้ง โค ร่วงลง 1.2% หลังจากมีรายงานการตรวจพบปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินโบอิ้ง 787 Dreamliner แม้ทางบริษัทได้ออกแถลงการณ์ว่ากำลังดำเนินการซ่อมแซมและไม่มีความกังวลเรื่องความปลอดภับก็ตาม

หุ้นไมโครอน เทคโนโลยี ดิ่งลง 2.8% หลังจากมีรายงานว่านายสตีเฟน แอพเพิลตัน วัย 51 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตก ขณะที่หุ้นเวริซอน คอมมูนิเคชันส์ ดีดตัวขึ้น 0.8% หุ้นคอยสตาร์พุ่งขึ้น 1.8% หุ้น Sohu.com ซึ่งเป็นบริษัทอินเตอร์เน็ตของจีน ร่วงลงกว่า 15% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด

ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นและช่วยพยุงตลาดไว้ไม่ให้ร่วงลงมากเกินไป โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิล หุ้นเชฟรอน และหุ้นชลัมเบอร์เกอร์ ดีดตัวขึ้นอย่างน้อย 1%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนธ.ค.

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค., รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนก.พ. และกระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ