ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ หลังจากรัฐบาลกรีซประกาศเลื่อนการเจรจาเรื่องมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่กรีซจะต้องดำเนินการให้ได้ก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือครั้งใหม่
ดัชนี Stoxx 600 ปรับตัวลง 0.1% แตะที่ 264.27 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดลบ 1.84 จุด หรือ 0.03% แตะที่ 6,764.83 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดลบ 22.65 จุด หรือ 0.66% แตะที่ 3,405.27 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดลบ 8.87 จุดหรือ 0.15% แตะระดับ 5,892.20 จุด
รัฐบาลกรีซเปิดเผยว่า การเจรจาเรื่องมาตรการรัดเข็มขัดและการปฏิรูปการคลังระหว่างนายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรี กับบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลกรีซ จะเลื่อนออกไปเป็นวันอังคาร จากเดิมที่มีกำหนดหารือกันในช่วงเที่ยงวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท ระบุว่า ตัวเลขหนี้สาธารณะของกรีซพุ่งขึ้นสู่ระดับ 159.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2554 เพิ่มขึ้นจากระดับ 154.7% ของจีดีพี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในกลุ่มยูโรโซน และสะท้อนให้เห็นว่ากรีซยังคงเผชิญกับภาระหนี้สินมูลค่ามหาศาล แม้รัฐบาลพยายามลดการใช้จ่ายลงจำนวนมากก็ตาม
หุ้นธนาคารโซซิเอเต เจนเนอรัล (ซอคเจน) ร่วงลง 2.9% หุ้นเครดิต อากริโคล ดิ่งลง 2.7%
หุ้นแอร์ ฟรานซ์ ดิ่งลง 4.1% หลังจากสหภาพแรงงานของสายการบินแอร์ ฟรานซ์ ได้ผละงานประท้วงในฝรั่งเศส ส่วนหุ้นเวสตัส วินด์ ซินเต็มส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตกังหันลมรายใหญ่ของยุโรป ร่วงลง 7.7% หลังจากราคาหุ้นของบริษัทถูกปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนโดยนักวิเคราะห์ของไอเอ็นจี