นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซัสโก้ (SUSCO) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ผลประกอบการปี 54 ในด้านกำไรคาดว่าจะเติบโตเกือบ 100% และยอดขายเป็นไปตามเป้าหมาย 14,000 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ปี 55 บริษัทตั้งเป้ามียอดขายที่ 15,000 ล้านบาท เติบโต 7-8% ขณะที่กำไรสุทธิคงจะมีอัตราการเติบโตในทิศทางเดียวกับรายได้
"ปี 54 น่าจะเป็นปีที่ยอดขายและกำไรสุทธิจะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งยอดขายปีที่แล้วน่าจะได้ตามเป้าหมาย แม้จะมีน้ำท่วมกระทบบ้าง แต่ช่วงหลังมียอดขายที่ดีขึ้น"นายชัยฤทธิ์ กล่าว
บริษัทได้เตรียมงบลงทุนในปีนี้ประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับโฉมสถานีบริการน้ำมันใหม่ จำนวน 30 แห่ง และเปิดสถานีบริการเพิ่มอีก 4-5 แห่ง ส่วนธุรกิจก๊าซ NGV ยังขอรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลในการปรับขึ้นราคาในช่วง 4 เดือนข้างหน้าก่อนพิจารณาการลงทุนเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่มีแผนการขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม โดยปีนี้ยังคงเน้นการส่งออกไปยังตลาดประเทศเพื่อนบ้านเป็นหลัก เน้นการรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ เพราะเชื่อว่าตลาดในประเทศเพื่อนบ้านยังมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี และจะส่งผลต่อความต้องการใช้น้ำมันและก๊าซให้เติบโตตาม ซึ่งสัดส่วนรายได้ของบริษัทจะเป็นจากในประเทศ 60% และต่างประเทศ 40%
นายชัยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังศึกษาแผนการลงทุนในโครงการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โดยขณะนี้มีความพร้อมในการลงทุนทั้งแหล่งเงินที่สถาบันการเงินพร้อมให้การสนับสนุน รวมถึงสถานที่ก่อสร้าง เพียงแต่รอความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลในการรับซื้อค่าไฟฟ้าว่าจะมีการให้ส่วนเพิ่มรับซื้อไฟฟ้า(Adder)คุ้มค่าต่อการลงทุนหรือไม่
แต่เบื้องต้นได้มีการศึกษาเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก ขนาด 6-7 เมกะวัตต์ การลงทุนต้องใช้เวลาคุ้มทุนไม่เกิน 2 ปี ซึ่งบริษัทพร้อมที่จะยื่นขอใบอนุญาตขายไฟฟ้ารอบใหม่ในช่วงกลางปี 55
"เรามีการศึกษาเรื่องนี้มาโดยตลอด และมีความพร้อมในการลงทุนอยู่แล้ว ทั้งแหล่งเงิน location ช่วงแรกอาจเป็นโรงไฟฟ้าไม่ใหญ่ขนาด 6-7 เมกะวัตต์ แต่ตอนนี้ต้องดูโครงการก่อนว่าจะคุ้มค่าการลงทุนหรือไม่ ต้องมีการพิจารณาในหลายเรื่อง เช่นตอนนี้ค่า adder ที่ 6.50 บาท ต้องดูว่าต้นทุนการดำเนินโครงการคุ้มค่าหรือไม่ ที่เราดูการลงทุนต้องคุ้มทุนไม่เกิน 2 ปี...กลางปีนี้จะมีการเปิดขอใบอนุญาต ถ้าดูโครงการคุ้มค่าก็พร้อมยื่นขอ"นายชัยฤทธิ์ กล่าว