บลจ.กรุงไทย เปิดขายกองทุนตราสารหนี้ อายุ 1 ปี คาดผลตอบแทน 4%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 7, 2012 14:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 21( KTFF21 )ถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ อายุโครงการ 1 ปี มูลค่า 5,000 ล้านบาท โดยกองทุนจะลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศทั้ง 100% ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 4.00%ต่อปี โดยไม่เสียภาษี หัก ณ ที่จ่าย และเงินลงทุนจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

กองทุนจะลงทุนในเงินฝากประจำของ Abu Dhabi Commercial Bank, Union National Bank, Bank of China และตราสารหนี้ระยะกลางของ Banco do brasil, Banco ltau BBA S.A., HANA Bank และ ICBC Asia Ltd.

นอกจากนี้ ช่วงกลางเดือนตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา บริษัทได้จัดตั้ง กองทุนเปิดกรุงไทย 8 เอ็ม 8% ทริกเกอร์ ฟันด์ 4 ( KT-Trigger 4 ) เป็นกองทุนมีนโยบายการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ อายุโครงการ 8 เดือน ซึ่งตามโครงการกำหนดไว้ว่าหากกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนตั้งแต่ 10.8000 บาทขึ้นไปเป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกัน หรือเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ108 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท) ณ วันทำการใด

ทั้งนี้ บริษัทสามารถบริหารกองทุนให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนถึงระดับที่คาดการณ์ไว้แล้ว โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ซึ่งได้รับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนทุกราย ไปยังกองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์ ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555

นายสมชัย กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาสภาวะการลงทุนทั่วโลกมีความผันผวนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะไตรมาส 4/54 ตลาดหลักทรัพย์ได้รับผลกระทบทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ เช่น ภาวะมหาอุทกภัยน้ำท่วม สถานการณ์หนี้สาธาณะในยุโรปยังคงมีความคลุมเครือในวิธีการแก้ปัญหา

แต่ในช่วงปลายปีจนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2555 ที่ผ่านมา ดัชนีหลักทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดหลักทรัพย์ โดยเฉพาะจากนักลงทุนต่างชาติที่กลับเข้ามาซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง ประกอบกับการที่นักลงทุนทั่วโลกคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาวิกฤตหนี้ ที่มีแนวโน้มและทิศทางชัดเจนขึ้น ซึ่งเป็นผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น

ส่วนของการลงทุนในช่วงปี 2555 ยังคงต้องติดตามทิศทางเศรษฐกิจโลก และพัฒนาการของแนวทางในการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป อย่างไรก็ตาม คาดว่าด้วยแรงกดดันทางด้านเงินเฟ้อที่ลดลง แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับนโยบายหรือโครงการต่างๆของภาครัฐ เพื่อฟื้นฟูประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนและการบริโภค จะเป็นผลดีต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งในปีนี้ทางบริษัทจะออกกองทริกเกอร์ใหม่ๆในช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อไป

สำหรับในปี 2555 คาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 990-1,290 จุด ซึ่งบริษัทมีแนวทางการลงทุนโดยใช้กลยุทธ์ในการคัดสรรหลักทรัพย์ที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงตามปัจจัยพื้นฐาน มีศักยภาพในการเติบโตที่มั่นคงและสามารถสร้างอัตราการเติบโตของกำไรในภาวะที่เศรษฐกิจมีความผันผวนจากปัจจัยภายนอกต่างๆได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ