นายวิวัฒน์ เตชะพูนผล หัวหน้ากลยุทธการลงทุนและผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดลูกค้าส่วนบุคคล บล.ทิสโก้ กล่าวในการสัมมนา“กลยุทธ์หุ้นไทย สู้วิกฤตหนี้ยุโรป"ว่า บล.ทิสโก้ ให้เป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี 55 อยู่ที่ 1,160 จุด โดยคาดว่าจะขึ้นไปทดสอบในช่วงไตรมาส 2/55 และหากทะลุผ่านไปได้ก็มีโอกาสจะไปถึง 1,300 จุด
"เป้าหมายในปีนี้อยู่ที่ 1,160 จุด แต่ตอนนี้ upside ก็เหลือไม่เยอะแล้ว แต่ถ้าผ่าน 1,160 จุดไปได้ ก็จะไปทดสอบ 1,300 จุดเลย อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้อยากให้นักลงทุนทยอยขายไปก่อน เพราะยังมีความไม่ชัดเจนเรื่องวิกฤติหนี้ในยุโรป แล้วค่อยกลับมาซื้อรอบใหม่ในช่วงปลายเดือน ก.พ."นายวิวัฒน์ กล่าว
การประเมินดังกล่าวอยู่บนพื้นฐาน คาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้จะเติบโต 16% และในปี 56 จะเติบโต 11% ซึ่งเป็นการเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าปีนี้จะขยายตัว 4.5-5.0% จากปีก่อนที่เติบโต 0.8-1.0% ประกอบกับ บริษัทจดทะเบียนจะได้รับประโยชน์จากภาษีนิติบุคคลที่จะลดเหลือ 23% ในปีนี้ และ 20% ในปี 56
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐและเยอรมนีที่ในช่วงนี้ออกมาดีอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่นจะยังไม่มีการปรับขึ้นไปจนถึงปลายปี 56
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยวิกฤติหนี้ในยุโรปเป็นตัวกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก น่าจะทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทยยังมีความผันผวนในช่วงไตรมาส 1/55 ซึ่งในเดือน ก.พ.55 จะมีหนี้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนขอองกลุ่ม PIIGS ซึ่งประกอบด้วย กรีซ โปรตุเกส ไอร์แลนด์ อิตาลี และสเปน วงเงินรวมกัน 8.5 หมื่นล้านยูโร และในเดือน มี.ค.55 อีก 8.8 หมื่นล้านยูโร รวมทั้งยังต้องติดตามแผนการเพิ่มทุนของธนาคารในยุโรปอีก 31 แห่ง
ส่วนปัจจัยในประเทศจะมีการเทขายหุ้นจากกองทุน LTF ที่ครบกำหนด ดังนั้น คาดว่าตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 1/55 จะแกว่งตัวในกรอบ 1,110-1,085 จุด แต่หากสามารถทะลุ 1,110 จุดได้ ก็อาจจะขึ้นไปทดสอบ 1,130 จุด แต่ถ้าลงต่ำกว่า 1,085 จุด ก็อาจจะลงไปลึกถึง 1,065 จุด จึงแนะนำให้ขายออกไปก่อนแล้วค่อยกลับมาซื้ออีกครั้งในช่วงปลายเดือนนี้
นายวิวัฒน์ กล่าวว่า ในช่วงที่ตลาดผันผวนก็ให้เก็งกำไรในหุ้นปันผลสูง อาทิ CGS ASK KGI FORTH
และกลุ่มที่แนะนำให้กลับมาซื้อในช่วงปลายเดือนนี้ ได้แก่ กลุ่มสื่อสาร THCOM ADVANC INTUCH, กลุ่มวัสดุก่อสร้าง SCC SCCC TPIPL DCC, กลุ่มรับเหมา STEC TTCL HYDRO, กลุ่มเหล็ก SIAM CHOW SSI, กลุ่มขนส่ง THAI AOT BTS BECL, กลุ่มนิคมฯ HEMRAJ AMATA TICON, กลุ่มธนาคาร SCB BBL KBANK TMB TCAP,กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ AP SIRI SPALI LH, กลุ่มพลังงาน PTT BANPU PTTGC ESSO IRPC, กลุ่มบันเทิง BEC MAJOR, กลุ่มกำจัดขยะ GENCO BWG, กลุ่มหลักทรัพย์ ASP GBX ZMICO KGI
รวมถึงหุ้นที่มีข่าวว่าจะมีการควบรวมหรือจะถูกขายหุ้นออกมา ได้แก่ TMB ESSO IRPC และ THAI