สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 92,375 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 75,698 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 82% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 14,893 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 3 ปี 5 ปี และ 9 ปี (LB15DA LB176A และLB21DA) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 8,811 ล้านบาท หรือคิดเป็น 59% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 1,560 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) (MBK137A) หุ้นกู้ของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด(มหาชน) (GLOW156A) และหุ้นกู้ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)(CPF17NA) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 767 ล้านบาท หรือคิดเป็น 49% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 23,807 ล้านบาท นักลงทุนกลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตค้าตราสารหนี้มีสถานะซื้อสุทธิ 2,675 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 5,684 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หรือโดยเฉลี่ยแล้วปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 1 — 2 Basis Point โดยภาพรวมตลาดตราสารหนี้ในวันนี้ นักลงทุนมีแรงซื้อพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ระยะสั้นที่มีการประมูลในวันนี้ โดยเป็นการเข้ามาพักเงิน สำหรับวิกฤตหนี้สาธารณะยุโรปได้กลับมาเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาด โดยตลาดกังวลว่ากรีซจะผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับ IMF และ ธนสคารกลางยุโรปยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดคงที่ที่ 3.02% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดที่ 3.13% ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.01% จากวันทำการก่อนหน้า