ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 33.07 จุด จากความหวังเจรจากรีซ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 8, 2012 06:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าการเจรจาในเงื่อนไขต่างๆที่จะนำไปสู่การทำข้อตกลงให้ความช่วยเหลือกรีซรอบใหม่นั้น จะผ่านไปอย่างราบรื่น และจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 33.07 จุด หรือ 0.26% แตะที่ 12,878.20 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 2.72 จุด หรือ 0.20% แตะที่ 1,347.05 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 2.09 จุด หรือ 0.07% แตะที่ 2,904.09 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับการคาดการณ์ในตลาดว่า กรีซใกล้จะบรรลุข้อตกลงเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้กับกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนที่ถือครองพันธบัตรของกรีซ และคาดว่าการเจรจาของกลุ่มผู้นำทางการเมืองของกรีซในเรื่องมาตรการลดการใช้จ่ายเพื่อปูทางให้กรีซได้รับความช่วยเหลือครั้งใหม่นั้น จะมีความคืบหน้าเช่นกัน

ผู้นำพรรคการเมือง 3 พรรคของกรีซได้หารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีลูคัส ปาปาเดมอสในช่วงกลางดึกวานนี้ตามเวลาไทย เพื่อหาบทสรุปมาตรการหั่นลดค่าใช้จ่ายขั้นเด็ดขาด อาทิ การปรับลดเงินเดือนและแก้ปัญหาการว่างงาน ตามข้อเรียกร้องของเจ้าหนี้

ประเทศเจ้าหนี้ในกลุ่มยูโรโซน และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ต้องการให้กรีซดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดอย่างเด็ดขาด เพื่อแลกกับเงินกู้ช่วยเหลือก้อนใหม่มูลค่า 1.30 แสนล้านยูโร หรือประมาณ 1.70 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการนำพาประเทศเข้าสู่ภาวะล้มละลาย จากเหตุผิดนัดชำระหนี้ โดยกรีซจะถึงกำหนดต้องชำระหนี้ 1.45 หมื่นล้านยูโร (1.85 หมื่นล้านดอลลาร์) ในการไถ่ถอนพันธบัตรในวันที่ 20 มี.ค.นี้

นอกจากนี้ กรีซยังมีการเจรจากับธนาคารและผู้ถือพันธบัตรในภาคเอกชนรายอื่นๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดภาระหนี้ของกรีซ ลงราว 1 แสนล้านยูโร ซึ่งจะเป็นการลดหนี้ลงจาก 160% ของจีดีพี สู่ระดับ 120% ภายในปี 2563

หุ้นแมคโดนัลด์พุ่งขึ้น 1.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาหุ้นที่คำนวณในดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ขณะที่หุ้นโคคา-โคลา พุ่งขึ้น 0.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ามีกำไรรายไตรมาส 1.65 พันล้านดอลลาร์ หรือ 0.72 ดอลลาร์/หุ้น และมีรายได้โดยรวมพุ่งขึ้น 5.2% แตะที่ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นยัม แบรนด์ส พุ่งขึ้น 2.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้พุ่งขึ้น 30% ในไตรมาส 4 และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของร้าน Pizza Hut ในสหรัฐ ซึ่งยัม แบรนด์ เป็นเจ้าของเชนร้านอาหาร Taco Bell, KFC และ Pizza Hut

อย่างไรก็ตาม หุ้นเอมเมอร์สัน อิเล็กทริก ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านการผลิต ดิ่งลง 2.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรร่วงลง 23% อันเนื่องมาจากต้นทุนที่สูงขึ้น และยอดขายของบริษัทได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศไทย

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนธ.ค.

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค., รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนก.พ. และกระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ