นายวิชัย ทองแตง ประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.แกรนด์ แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ (GRAND) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทมีความพร้อมที่จะกลับมาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจโรงแรมต่อ โดยหลังจากที่ได้ออกจากแผนฟื้นฟูฯและปรับโครงสร้างใหม่ทั้งในส่วนของโครงสร้างองค์กรและคณะกรรมการบริษัท
บริษัทตั้งเป้าจะพัฒนาโครงการที่พักอาศัยและโรงแรมย่านสุขุมวิทซอย 13 และซอย 27 มูลค่ารวม 3.5 พันล้านบาท ให้เสร็จภายใน 1-2 ปีนี้ หลังจากทั้ง 2 โครงการชะลอมาจากปัญหาทางการเงินช่วงวิกฤตเลห์แมน โดยทั้ง 2 โครงการจะเริ่มก่อสร้างต่อภายในปีนี้ พร้อมกันนั้น ยังตั้งเป้าที่จะมีโครงการอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมภายใต้การบริหารรวมมูลค่า 1 หมื่นล้านบาทภายในปี 58 ก่อนที่จะมีการเปิดเสรีอาเซียน
นายวิชัย กล่าวว่า โดยส่วนตัวมีความสนใจที่จะเข้าถือหุ้นใน GRAND เพราะมองว่าเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตในอนาคตและสอดคล้องกับธุรกิจโรงแรมที่มีอยู่ แต่การพัฒนาโครงการต่าง ๆ คงเกิดขึ้นหลังกระบวนการเพิ่มทุนเสร็จสิ้น โดยขณะนี้เหลือหุ้นเพิ่มทุนที่เสนอขายอีก 285 ล้านหุ้นจากทั้งหมด 500 ล้านหุ้น ขณะที่มีผู้สนใจเข้าซื้อหุ้นเพิ่มมากกว่า 5 รายเป็นนักลงทุนสถาบันและบุคคล ซึ่งคาดว่าจะจบดีลภายในสิ้นเดือนก.พ.นี้
"การที่ผมเข้ามานั่งบริหารที่ GRAND เชื่อมั่นว่าจะทำให้แกรนด์พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นและพร้อมสร้างมูลค่าของแกรนด์ให้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นแต่ช่วงเร่งด่วนนี้จะทำ 2 โครงการนี้ให้ออกดอกออกผลก่อนซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพในด้านผลดำเนินงานที่ดีขึ้น และปรับรูปแบบเป็นผสมผสานมากขึ้นจากเดิมเป็นโรงแรมอย่างเดียวเพื่อความคล่องตัว"นายวิชัย กล่าว
ขณะที่นายนพดล มิ่งจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GRAND คาดว่า รายได้ของบริษัทในปีนี้จะเพิ่มขึ้นจากปี 54 โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีที่แล้วบริษัทมีรายได้กว่า 600 ล้านบาท
สำหรับโรงแรมที่อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทนั้น โรงแรม เดอะเวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท ซึ่งขณะนี้ก็มีอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นมาเป็น 60% ในเดือน ม.ค.55 และทั้งปีคาดว่าจะอยู่ที่เฉลี่ยสูงกว่า 65% ขณะที่เชอราตัน แกรนด์ หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา มีอัตราเข้าพัก 80% และ โรงแรม หัวหิน บลู ลากูน อีก
นอกจากนี้ บริษัทยังมีความสนใจที่จะเข้าเทคโอเวอร์ธุรกิจโรงแรมเพิ่มเติม โดยขณะนี้อยูระหว่างเจรจาหลายดีล คาดว่าจะเห็นได้ในช่วงกลางปีนี้ 1 ดีล มูลค่าโครงการประมาณ 1.5 พันล้านบาท นายนพดล กล่าวว่า จากการที่ได้รับการสนับสนุนทางด้านการเงินที่ดี และยอดขายจาก 2 โครงการที่สุขุมวิทเชื่อว่าบริษัทจะสามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 1,000 ล้านบาทได้หมดภายในปี 56 อีกทั้งยังมีการโอนโครงการที่สุขุมวิทซอย 13 เข้ามาด้วย ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมและมีผลการดำเนินที่ดีขึ้นได้