ราคา ITD ปรับตัวขึ้น 4.32% มาที่ 3.86 บาท บวก 0.16 บาท เมื่อเวลา 10.37 น. จากราคาเปิด 3.70 บาท โดยราคาขึ้นไปสูงสุดที่ 3.94 บาทและราคาต่ำสุดที่ 3.68 บาท มูลค่ารวม 587.72 บาท
บล.เกียรตินาคิน ระบุว่า จากรายงานข่าวที่การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)เจรจาขอลดค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงสัญญาที่ 1 กับ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น(STEC) กรณีที่ผู้รับเหมาเสนอราคาสูงกว่ากรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า SU (STEC และ UNIQ) เสนอราคาต่ำสุดที่ 3.1 หมื่นล้านบาท สูงกว่าวงเงินที่ ครม.อนุมัติไว้ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท จึงเจรจาเพื่อต่อรองราคา แต่หากตกลงกันไม่ได้ต้องเจรจากับกลุ่ม ITD ผู้เสนอราคาอันดับ 2 แต่หากราคายังสูงกว่ากรอบ รฟท.จะเชิญผู้ยื่นข้อเสนอทุกรายมาเจรจา อย่างไรก็ตาม หากราคาสุดท้ายยังสูงกว่ากรอบ ก็จำเป็นต้องเสนอ ครม.พิจารณาเพิ่มกรอบวงเงิน ส่วนการยกเลิกและเปิดประกวดราคาใหม่จะเป็นทางเลือกสุดท้าย
มีความเป็นไปได้ที่อาจเปลี่ยนมืองานเป็น ITD จากนโยบายของ STEC ที่ต้องการรับงานที่มีประสิทธิภาพเพื่อรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ระดับ 8-9% ทำให้การขอต่อรองราคาของสายสีแดงดังกล่าว มีผลต่อการตัดสินใจไม่รับงานของ STEC ได้ เนื่องจากอดีตที่ผ่านมา STEC ค่อนข้างบาดเจ็บจากโครงการ Airport Rail Link พอควร ทำให้งานดังกล่าวผ่านต่อไปยัง ITD ได้
อย่างไรก็ตาม ยังมีงานอื่นต่อเนื่องเช่นสัญญาที่ 2 (งานโยธาสำหรับทางรถไฟ) ระยะทาง 21 กิโลเมตร มูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีผู้ยื่นซอง 3 ราย คือ ITD CK และ กิจการร่วมค้า SU ซึ่ง STEC ร่วมประมูลเช่นกัน
"มีการเก็งกำไรการรับงานของ ITD เรามองว่าประเด็นข่าวอาจเอื้อประโยชน์ให้กับ ITD ในแง่การรับงานที่เพิ่มขึ้นอย่างไรก็ตาม เราแนะนำเป็นเพียงการเก็งกำไรระยะสั้น คาดว่าแรงกดดันราคายังคงเกิดกับ ITD ซึ่งเป็นผลจากผลประกอบการที่อ่อนแอ ซึ่งเราคาดว่าใน Q4/54 ITD ยังประสบปัญหาขาดทุน"บทวิเคราะห์ระบุ
ทั้งนี้ ราคาที่เหมาะสมของ ITD อยู่ที่ 4 บาท สำหรับ STEC แม้ว่าจะไม่ได้รับงานสายมีแดงดังกล่าวแต่ ผลประกอบการที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ ความเสียงน้อยจากสถานะทางการเงินแข็งแกร่งจากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ต่ำ และสัดส่วนหนี้สินต่อทุน 1.67 เท่า รวมถึงการจ่ายปันผลที่ให้ผลตอบแทน 3 — 3.5% ทำให้ยังคงแนะนำ"ซื้อ"STEC ราคาที่เหมาสม 15.40 บาท