นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน(AMATA) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถขายที่ดินในปีนี้ได้กว่า 3,000 ไร่ เพราะมีลูกค้าที่อยู่ระหว่างการรอเซ็นสัญญาและเจรจาเกือบ 3,000 ไร่แล้ว ยังไม่ได้นับรวมการขายที่ดินให้กับนักลงทุนจีน(โฮลี่)
สำหรับยอดขายที่ดินในปีนี้ คาดว่าจะขายได้และมีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาทสูงสุดตั้งแต่ตั้งบริษัทมา โดยปี 49 บริษัทเคยทำยอดขายได้สูถึง 1,721 ไร่ และปีที่ผ่านมา 54 ก็เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 1,500 ไร่ ซึ่งยังเหลือการค้างโอนอีก 50% ที่จะมารับรู้รายได้ในปีนี้ ส่วนยอดขายที่ดินในปีนี้ จะสามารถรับรู้ได้เมื่อมีการส่งมอบที่ดินให้กับลูกค้าเสร็จสมบูรณ์
แต่อย่างไรก็ตาม การขายที่ดินดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัทมีกระแสเงินสดเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมียอดขายที่ดินรอรับรู้รายได้(Backlog)เป็นจำนวนมาก
"การลงทุนในช่วงต้นปีที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวทิศทางที่ดี จากสัญญาณการลงทุนของต่างประเทศที่จะมีการย้ายฐานเข้ามาอย่างแน่นอน โดยในไตรมาสแรกคาดว่าจะมีกลุ่มนักลงทุนเข้ามาสรุปดีลขายที่ดินเพิ่มขึ้น จากกลุ่มนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง"นายวิบูลย์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทได้วางเป้าหมายการลงทุนในปี 55 ไว้ที่ 2,500-3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบสำหรับการพัฒนาที่ดิน 1,500-2,000 ล้านบาท งบก่อสร้างโรงงานสำเร็จรูปประมาณ 1,000 ล้านบาท ปัจจุบัน อมตะมีที่ดินที่รอการพัฒนาอยู่ 14,000 ไร่ ทั้งในนิคมอมตะนคร และอมตะซิตี้
ส่วนโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าปีนี้ตั้งเป้าที่จะลงทุน 50 โรงงาน ซึ่งแต่ละโรงงานมีพื้นที่ประมาณ 1,250 ตารางเมตร โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 20 โรงงาน และจะทยอยลงทุนก่อสร้างอีก 30 โรงงานให้ครบตามจำนวน