ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ดาวโจนส์ปิดบวก 6.51 จุดรับข่าวกรีซ,ข้อมูลศก.สหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 10, 2012 06:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) หลังจากพรรคร่วมรัฐบาลของกรีซบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนรัดเข็มขัดชุดใหม่ ซึ่งจะปูทางให้กรีซได้รับเงินกู้รอบสอง อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลหลังจากรมว.คลังเยอรมนีได้แสดงความวิตกกังวลว่าข้อตกลงดังกล่าวอาจมีคุณสมบัติไม่มากพอที่จะช่วยให้กรีซได้รับความช่วยเหลือรอบสองได้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 6.51 จุด หรือ 0.05% แตะที่ 12,890.46 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 1.99 จุด หรือ 0.15% แตะที่ 1,351.95 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 11.37 จุด หรือ 0.39% แตะที่ 2,927.23 จุด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากกนายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรีกรีซ และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนรัดเข็มขัดชุดใหม่ตามที่กลุ่มเจ้าหนี้เรียกร้อง เพื่อแลกกับเงินกู้รอบสองวงเงิน 1.30 แสนล้านยูโร ซึ่งนับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้กรีซหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ โดยกรีซมีกำหนดที่จะต้องชำระเงินกู้คืนเจ้าหนี้เอกชนเป็นจำนวน 1.44 หมื่นล้านยูโร ในวันที่ 20 มีนาคมนี้

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนมากขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ก.พ. ลดลง 15,000 ราย มาอยู่ที่ 358,000 ราย สวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ นับเป็นหลักฐานล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1% และธนาคารกลางอังกฤษประกาศขยายมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อีก 5 หมื่นล้านปอนด์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ในการประชุมเมื่อวานนี้

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากที่รมว.คลังเยอรมนีได้ออกมาแสดงความกังวลว่า ข้อตกลงที่ผู้นำทางการเมืองของกรีซทำร่วมกันนั้นอาจมีคุณสมบัติไม่มากพอที่จะช่วยให้กรีซได้รับความช่วยเหลือรอบสองได้ ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนมองว่า กรีซอาจจะไม่สามารถดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดได้อย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากขณะนี้ประชาชนจำนวนมากได้ออกมาชุมนุมประท้วงเรื่องการตำแหน่งงานและลดค่าแรง ซึ่งการชุมนุมประท้วงมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงมากขึ้น

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากข่าวบริษัท เป๊ปซี่ อิงค์ วางแผนปรับลดจำนวนพนักงาน 8,700 ตำแหน่ง หรือคิดเป็นสัดส่วน 3% ของกำลังคนทั้งหมดของบริษัท นอกจากนี้ ทางบริษัทยังได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2555 ด้วย ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดราคาหุ้นเป๊ปซี่ร่วงลง 4%

หุ้นไดมอน ฟู๊ดส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตขนมขบเคี้ยว "Emerald Nuts" และ "Pop Secret" ดิ่งลง 37% หลังจากมีรายงานว่าไดมอน ฟู๊ดส์ ได้ปลดผู้บริหาร 2 คนออกจากตำแหน่ง อันเนื่องมาจากเรื่องอื้อฉาวด้านบัญชี

อย่างไรก็ดี หุ้นแอปเปิล อิงค์ พุ่งขึ้น 3.46% เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าแอปเปิลจะมียอดจำหน่าย iPhone 4S ที่สูงมาก และนักลงทุนยังขานรับข่าวที่ว่าแอปเปิลเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ iPad 3 ในเดือนมี.ค.นี้

นักลงทุนจับตาดุข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค., รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนก.พ. และกระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนม.ค


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ