นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า เครือธนาคารกสิกรไทย และแมคควอรีกรุ๊ป (“Macquarie"; ASX: MQG) กลุ่มสถาบันการเงินอันดับหนึ่งของออสเตรเลียด้านวาณิชธนกิจ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการการเงินด้วยการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจ (Exclusive Strategic Alliance / ESA) พันธกิจแรก ทำให้ KSecurities ขึ้นชั้นเป็นบริษัทหลักทรัพย์ใหญ่ระดับ Top 3 ทันที
ความร่วมมือในครั้งนี้ เริ่มจากการให้บริการทางด้านวาณิชธนกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนโดยรวมถึงการให้บริการทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับการซื้อขายและควบรวมกิจการ นอกจากนั้น ยังให้บริการกับลูกค้ากลุ่มสถาบันในการซื้อขายหลักทรัพย์และร่วมกันนำเสนอบทวิเคราะห์แก่ลูกค้าภายในประเทศอีกด้วย
ขอบเขตการให้บริการของแมคควอรีกรุ๊ป ครอบคลุมด้านการธนาคาร ที่ปรึกษาทางการเงิน การลงทุน และการบริหารกองทุนในเอเชีย-แปซิฟิก และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยตลอด ด้วยกลยุทธ์การขยายแฟรนไชส์ และการขยายฐานผลิตภัณฑ์ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แมคควอรีได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือทางกลยุทธ์กับกลุ่ม Julius Baer ซึ่งเป็นผู้นำในการให้บริการด้านไพรเวทแบงกิ้งของสวิส, Foundation Securities ผู้นำทางด้านบริษัทหลักทรัพย์ของประเทศปากีสถาน,VinaSecurities ผู้นำทางด้านบริษัทหลักทรัพย์ของประเทศเวียดนาม และ BRAC-EPL ผู้นำทางด้านวาณิชธนกิจของประเทศบังคลาเทศ ปัจจุบันแมคควอรีได้ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้จัดการ IPO ที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย ด้วยการนำธนาคารเพื่อการเกษตรของประเทศจีนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งนับเป็นการทำ IPO ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในเวลานี้
นายมาร์ค ดันแคน Macquarie’s Global Head of Cash Equities กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ตลาดทางด้านการเงินตื่นตัวมากที่สุดในทวีปเอเชีย และเป็นประเทศที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเรา ซึ่งจากความร่วมมือในครั้งนี้ จะทำให้บทวิเคราะห์ของเราทวีความกว้างและลึกซึ้ง และตรงกับความต้องการของลูกค้าเรามากยิ่งขึ้น
ด้านน.ส.ณัฐรินทร์ ตาลทอง ประธานกรรมการบริหาร บล.สิกรไทย กล่าวว่า การร่วมมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจกับทางแมคควอรีกรุ๊ป ในครั้งนี้ คือกุญแจสำคัญอีกดอกหนึ่งที่จะไขประตูแห่งการลงทุนให้เปิดกว้างออกไป เพื่อให้ลูกค้าของเราได้เพิ่มโอกาสในการลงทุนออกไปอย่างไม่มีขีดจำกัด ได้เพิ่มเติมมุมมองและข้อมูลที่กว้างและลึกจากงานวิจัยที่หลักทรัพย์กสิกรไทยและแมคควอรีพัฒนาร่วมกันให้มีมุมมองที่เป็นสากลอย่างแท้จริง ในภาคธุรกิจเอง การต่อยอดทางการด้าน Merger & Acquisition ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสและประสิทธิภาพจากฐานลูกค้าองค์กรในระดับนานาชาติที่ครอบคลุมทั่วโลก รวมถึงการขยายฐานการลงทุนต่าง ๆ ก็สามารถให้บริการได้อย่างง่ายดายและถูกต้องแม่นยำ ด้วยความร่วมมือในครั้งนี้
“เป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ความร่วมมือในครั้งนี้ ทำให้เราก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำของประเทศไทยทางด้านงานวิจัย ทั้งเรื่องความครอบคลุมของบทวิเคราะห์รายหลักทรัพย์ที่มีความกว้างและลึก และบทวิเคราะห์ในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่เป็นจุดเด่นของแมคควอรี นอกจากนั้น จะทำให้เรามีส่วนแบ่งทางการตลาดของธุรกิจหลักทรัพย์อยู่ในกลุ่ม Top 3 ของตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกด้วย" น.ส.ณัฐรินทร์ กล่าว