นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ยืนยันว่า เกณฑ์การคำนวณมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) ของกองทุนทองคำนั้น ซึ่งกองทุนรวมที่อุตสาหกรรมใช้อยู่นั้นมีแนวปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งอุตสาหกรรม และเป็นไปตามมาตรฐานบัญชี ที่ สำนักงาน ก.ล.ต. ประกาศกำหนดให้ทั้งอุตสาหกรรมกองทุนยึดถือปฏิบัติตามอยู่แล้ว
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากรายงานข่าวของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ฉบับที่ 12/2555 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2555 เกี่ยวกับเรื่อง เกณฑ์การคำนวณ NAV ของกองทุนรวมที่ลงทุนในกองทุน ETF ทองคำในต่างประเทศ
"เรื่องการคำนวณ NAV ของกองทุนนั้น มีกฎกติกาที่จะต้องทำตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด คือเราจะต้องใช้ราคาปิดตามมาตรฐานบัญชีทุกประการ และในเมื่อมาตรฐานบัญชีกำหนดว่าเราต้องใช้ราคาปิดของตลาดที่มีสภาพคล่อง เราก็จำเป็นต้องใช้ราคานั้น ซึ่งตลาดสิงคโปร์ที่ ETF ทองคำจดทะเบียนซื้อขายนั้น ก็เป็นตลาดที่มีสภาพคล่อง เราก็ต้องใช้ราคาปิดของตลาดนั้นตามกฎ เราจะทำเป็นอื่นไปได้อย่างไร นอกจากนี้ เรื่องที่มีข้อสงสัยว่าอาจมีผู้ใดผู้หนึ่งที่ได้ประโยชน์จากเรื่องราคานั้น สมาคมฯ เชื่อโดยสุจริตใจว่าไม่มี บลจ. ใดไปแสวงหาประโยชน์ให้ตนเองหรือใครๆ ด้วยการกระทำเช่นนั้น และเรื่องนี้หากมีข้อสงสัย เราก็เชื่อมันว่า สำนักงาน ก.ล.ต. เขาก็ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งอยู่แล้วในการตรวจสอบ" นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุนกล่าว
ทั้งนี้ สมาคมฯ กับ สำนักงาน ก.ล.ต. จะหารือร่วมกันต่อเนื่องถึงข้อดี ข้อเสีย เพื่อประเมินหาแนว ทางปฏิบัติที่เหมาะสมที่สุดต่อไป
นางวรวรรณ กล่าวว่า เรื่องที่กองทุนทองคำไปลงทุนในอีทีเอฟทองคำที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดสิงคโปร์ ซึ่งอีทีเอฟดังกล่าวมีราคาปิดสูงกว่าปกติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทำให้ NAV ของกองทุนรวมไทยสูงไปด้วยนั้น ทางสมาคมฯ มีการหารือกันอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์จะได้ให้ข่าวไปยังสำนักพิมพ์ต่างๆ โดยที่สมาคมฯ ไม่เคยได้รับการติดต่อและยังไม่เคยได้พบกับทางศศินทร์แต่ประการใด
นอกจากนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. กับสมาคมฯ ก็ได้มีการดำเนินการร่วมกัน 2 ฝ่ายในการพิจารณาเรื่องนี้อยู่มาก่อนแล้ว และ บลจ. ที่เกี่ยวข้องได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการคุ้มครองผู้ลงทุนโดยไม่ได้บกพร่อง โดยตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2555 บลจ.ได้ติดต่อไปยังตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ซึ่งหน่วยลงทุน ETF GLD 10US$ (SPDR Gold Trust) จดทะเบียนอยู่ และทางตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ได้ตอบกลับมาว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
"เราไม่ได้นิ่งนอนใจแต่ประการใด และไม่ได้เพิ่งมาตื่นตัวทำตามหลังข่าวของศศินทร์ ซึ่งสมาคมฯ มีความยินดียิ่งที่ศศินทร์มีความตื่นตัวในเรื่องนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะดำเนินการสัมมนาด้วยการให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้เข้ารับฟังอย่างครบถ้วนและเป็นธรรม อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณชน และเป็นตัวอย่างที่ดียิ่งในแวดวงการศึกษา" นางวรวรรณ กล่าว