ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลง จากกระแสวิตกหนี้กรีซ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 10, 2012 22:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับแผนการช่วยเหลือกรีซให้รอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐร่วงหนักเกินคาด ด้านยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับลดลง 138.84 จุด หรือ 1.1% มาอยู่ที่ 12,751.62 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 ลดลง 1% มาอยู่ที่ 1,338.25 จุด ณ เวลา 10:13 น.ตามเวลานิวยอร์ก

ปัจจัยลบของตลาดหุ้นสหรัฐมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของกรีซหลังจากที่วันนี้นายโวล์ฟกัง ชอยเบิล รัฐมนตรีคลังเยอรมนีเผยว่า กรีซไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการปรับลดหนี้ พร้อมระบุว่าแผนการปฏิรูปของกรีซไม่สามารถช่วยให้ตัวเลขหนี้สินของประเทศลดลงมาอย่างยั่งยืนได้

นายชอยเบิลกล่าวว่า แผนปฏิรูปของกรีซจะทำให้มีหนี้สินเหลืออยู่สูงถึง 136% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2563 ซึ่งภาวะดังกล่าวทวีแรงกดดันต่อนักการเมืองกรีซในการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาเกี่ยวกับมาตรการรัดเข็มขัด และยิ่งตอกย้ำความไม่พอใจของเจ้าหน้าที่ยุโรปในการประชุมเพื่อช่วยเหลือกรีซรอบสอง

ด้านสมาชิกสภานิติบัญญัติของกรีซจะเริ่มลงมติรับรองมาตรการรัดเข็มขัดในสุดสัปดาห์นี้ หลังจากที่นายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรีกรีซ และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนรัดเข็มขัดดังกล่าว เพื่อปูทางให้กรีซได้รับเงินกู้รอบสองและหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้

นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ นายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์กและประธานยูโรกรุ๊ปเปิดเผยว่า กรีซต้องนำแผนการปรับลดงบประมาณฉบับล่าสุดมูลค่า 325 ล้านยูโรมาบังคับใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งหากกรีซไม่ทำตามข้อเสนอก็จะส่งผลให้ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือก้อนใหม่ และจะบีบให้กรีซผิดนัดชำระหนี้จำนวน 1.44 หมื่นล้านยูโรในการไถ่ถอนพันธบัตรในวันที่ 20 มี.ค.

ทั้งนี้ หุ้นซิตี้กรุ๊ป มอร์แกน สแตนลีย์ และแบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป ดิ่งลงกว่า 1.8%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ