ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (10 ก.พ.) หลังจากที่รัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนชะลอการอนุมัติแผนให้ความช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหม่แก่กรีซ ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่ากรีซจะไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ได้ทันเวลา
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลดลง 89.23 จุด หรือ 0.69% แตะที่ 12,801.23 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 9.31 จุด หรือ 0.69% แตะที่ 1,342.64 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 23.35 จุด หรือ 0.80% แตะที่ 2,903.88 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐมนตรีคลังยูโรโซนกล่าวว่า กรีซต้องลดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก 430 ล้านดอลลาร์ จึงจะได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน อย่างไรก็ดี แรงงานในกรีซได้จัดการชุมนุมทั่วประเทศเพื่อต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด ขณะที่ผู้นำของพรรคเล็กที่สุดในรัฐบาลผสมก็ส่งสัญญาณว่าอาจโหวตค้านการใช้มาตรการรัดเข็มขัดดังกล่าว
นอกจากนั้นข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐยังส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าสหรัฐขยายตัวเกินคาดเล็กน้อยสู่ระดับ 4.88 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 4.85 หมื่นล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกันธอมสัน รอยเตอร์ และมหาวิทยาลัยมิชิแกน เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงสู่ระดับ 72.5 จุดในเดือนกุมภาพันธ์ จากระดับ 75.0 จุดในเดือนมกราคม
ข้อมูลเศรษฐกิจจากทางด้านจีนก็ไม่สู้ดีนัก โดยจีนรายงานว่ายอดนำเข้าหดตัวลงในเดือนมกราคม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะวันหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีน ถึงกระนั้นก็ยังก่อให้เกิดความกังวลเรื่องอุปสงค์ภายในประเทศ