ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 ก.พ.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 4 วันทำการ หลังจากรัฐมนตรีคลังยูโรโซนเลื่อนการตัดสินใจเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบสอง ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดในเดือนหน้านี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.9% ปิดที่ 261.24 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6692.96 จุด ลบ 95.84 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3373.14 จุด ลบ 51.57 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดที่ 5852.39 จุด ลบ 43.08 จุด
ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้เลื่อนการตัดสินใจเรื่องมาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่ 2 โดยระบุว่า รัฐบาลกรีซยังดำเนินการไม่มากพอที่จะโน้มน้าวให้สหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) อนุมัติการให้ความช่วยเหลือรอบใหม่ได้ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากรัฐบาลกรีซมีกำหนดที่จะต้องใช้เงินในการไถ่ถอนพันธบัตรมูลค่า 1.4 หมื่นล้านยูโร ในวันที่ 20 มี.ค.นี้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานศุลกากรแห่งจีน (GAC) ที่ระบุว่า ยอดการส่งออกของจีนในเดือนม.ค.ลดลง 0.5% เทียบรายปี มาอยู่ที่ระดับ 1.4994 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดการนำเข้าร่วงลง 15.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 1.2266 แสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้มูลค่าการค้าต่างประเทศของจีนลดลง 7.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 2.726 แสนล้านดอลลาร์
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นคอมเมิร์ซ แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของเยอรมนี ดิ่งลง 5.2% หุ้นเนชันแนล แบงก์ ออฟ กรีซ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของกรีซ ร่วงลง 9.5% หุ้นอัลฟา แบงก์ ธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของกรีซ ร่วงลง 9.4% และหุ้นอีเอฟจี ยูโรแบงก์ เออร์กาเซียร์ส ร่วงลง 9.3%
หุ้นซาบ (Saab) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสวีเดน ร่วงลง 8.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิ 413 ล้านโครเนอร์ (62 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาส 4 ปี 2554 ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 474 ล้านโครเนอร์
หุ้นอัลคาเทล-ลูเซนท์ ซึ่งเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ด้านการสื่อสารโทรคมนาคมของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 12% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2555 ขณะที่หุ้นโททาล ร่วงลง 1.4% หลังจากบริษัทวางแผนปรับลดการลงทุนในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 2 หมื่นล้านดอลลาร์