ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าดีดตัวขึ้นปานกลางในวันนี้ (13 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของกรีซและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับระบบการเงินทั่วโลก หลังจากรัฐสภากรีซอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นต่อการรับความช่วยเหลือครั้งใหม่จากต่างประเทศ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าบวก 16.31 จุด หรือ 0.18% แตะที่ 8,963.48 จุด
หุ้นกลุ่มขนส่งทางอากาศ กลุ่มสารสนเทศ และกลุ่มบริการ พุ่งขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มขนส่งทางเรือ กลุ่มไฟฟ้าและก๊าซ และกลุ่มหลักทรัพย์ ปรับตัวลง
นักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า รัฐสภากรีซมีมติด้วยคะแนนเสียง 2 ใน 3 อนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่แล้วในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย เพื่อแลกกับความช่วยเหลือรอบที่ 2 จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) วงเงิน 1.30 แสนล้านยูโร ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ โดยรัฐบาลกรีซมีกำหนดที่จะต้องใช้เงินในการไถ่ถอนพันธบัตรมูลค่า 1.4 หมื่นล้านยูโร ในวันที่ 20 มี.ค.นี้
ตลาดแทบจะไม่มีปฏิกริยาต่อรายงานของสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2554 ของญี่ปุ่น หดตัวลง 2.3% ต่อปี ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวลงครั้งแรกในรอบ 2 ไตรมาส เนื่องจากยอดการส่งออกชะลอตัวลง อันเป็นผลมาจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศไทย และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาลงเนื่องจากวิกฤตหนี้สาธารณะยุโรป