หุ้น TOP ราคาขยับขึ้น 1.40% มาอยู่ที่ 72.50 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท มูลค่าซื้อขาย 272.35 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.34 น. โดยเปิดตลาดที่ 72 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 72.75 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 72 บาท
เช้านี้ บมจ.ไทยออยล์(TOP)และบริษัทย่อย ประกาศกำไรปี 54 เท่ากับ 1.49 หมื่นล้านบาท กำไรต่อหุ้น 7.28 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่กำไร 8.96 พันล้านบาท กำไรต่อหุ้น 4.39 บาท พร้อมอนุมัติจ่ายเงินปันผลอีกในอัตราหุ้นละ 2.00 บาท กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 30 เมษายน 2555
ด้านบล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น TOP ให้ราคาเป้าหมายที่ 74 บาท เห็นว่ามูลค่าของธุรกิจโรงกลั่น TOP ก็ยังมี Undervalued ด้วย Turnover ของ TOP ที่ราว 1.38 แสนล้านบาท คิดเป็น 12,700 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หากเทียบกับโรงกลั่นในภูมิภาคที่กำลังมีการซื้อขายกัน ที่ 13,500 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลขึ้นไป อีกทั้งหากไปเทียบกับดีลที่ IVL ซื้อ Old World ยิ่งนับว่าถูก เพราะดีลนั้นสูง 15,000 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล(เทียบกลับมาเป็น TOP เท่ากับราคา 73 บาท)
กำไรสุทธิ TOP ในไตรมาส 4/54: ตกต่ำเหลือเพียง 1,862 ล้านบาท ลดลง 48% YoY และ 26% QoQ กำไรสุทธิของปี 2554 ที่ 14,853 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 4/54 ค่าการกลั่นรวมลดลงมาเหลือราว 3.7 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล (GIM 6.3 เหรียญฯต่อบาร์เรล รวม stock gain ที่ 0.6 เหรียญฯต่อบาร์เรล) จาก 9M54 ที่ 5.1 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ทำให้ปี 2554 มี GIM ที่ 9.3 เหรียญฯต่อบาร์เรล (รวม Stock gain ที่ 1.58 เหรียญฯต่อบาร์เรล) โดยค่าการกลั่นเบนซินที่อ่อนตัวลงมาเหลือ 9.6 เหรียญฯต่อบาร์เรล จาก 17.4 เหรียญฯต่อบาร์เรลในไตรมาสก่อน เป็นปัจจัยลบต่อค่าการกลั่นโดยรวม
อีกทั้งมีรายการพิเศษในส่วนของ FX Loss ประมาณ 424 ล้านบาท ส่วนราคาเฉลี่ยของสเปรดพาราไซลีนในไตรมาสนี้อยู่ที่ 466 เหรียญฯต่อตัน ลดลง 11% QoQ และสเปรดเบนซินที่ปรับตัวลดลงเหลือ 9 เหรียญฯต่อตัน จาก 68 เหรียญฯต่อตัน ในไตรมาส 3/54