นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง(RATCH)เผยในปี 55 บริษัทวางงบลงทุนไว้ที่ 8 พันล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงการในมือ 13 โครงการที่ลงทุนไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งในปีนี้บริษัทมีโครงการที่จะแล้วเสร็จและจะรับรู้กำลังการผลิตเพิ่มอีก 300 เมกะวัตต์
นอกจากนั้นยังมีแผนลงทุนในโครงการใหม่ โดยสนใจที่จะลงทุนในแต่ละโครงการไม่ต่ำกว่า 25% และประเทศที่เป็นเป้าหมายในการลงทุนปีนี้นอกจาก ลาวและออสเตรเลีย ยังมีประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ ที่มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจที่จำเป็นต้องพัฒนาระบบไฟฟ้าและพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานให้มั่นคง
ทั้งนี้ ในปี 54 บริษัทสามารถขยายกำลังการผลิตได้เพิ่ม 858 เมกะวัตต์ ส่งผลให้กำลังการผลิตของบริษัทในปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาที่ 5,312 เมกะวัตต์
นายนพพล กล่าวว่า บริษัทสนใจลงทุนโรงไฟฟ้าแถบอาเซียนเพิ่มเติม คาดว่าจะมีความชัดเจนด้านการลงทุนบางโครงการภายในไตรมาส 1/55 ทั้งนี้ประเทศในแถบอาเซียนที่บริษัทมองว่ามีศักยภาพในการพัฒนาพลังงานไฟฟ้า ได้แก่ พม่า ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาประเทศ หลายเมืองต้องการการไฟฟ้า เช่น เมืองเนปิดอร์และร่างกุ้ง โดยพม่ามีประชากรมากถึง 70 ล้านคน ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้ายังเติบโตได้อีกมาก หากมีโครงการไหนที่ บมจ.ปตท.(PTT)สนใจและต้องการพันธมิตร บริษัทก็พร้อมจะร่วมโครงการ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีหลายโครงการที่ถือหุ้นร่วมกัน
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าในทวาย ขณะนี้ยังคงต้องผู้ถือหุ้นใหญ่คือ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นต์(ITD)เจรจากับผู้ที่เกี่ยวข้องของทางการพม่า ซึ่งบริษัทมีความพร้อมในทุกด้านแม้ว่าจะต้องเปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิงจากเดิมที่กำหนดเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหิน
สำหรับการลงทุนในกัมพูชา บริษัทก็มีความสนใจโครงการโรงไฟฟ้าในเกาะกง และอีกหลายเมืองที่มีศักยภาพ เพราะความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงเช่นกัน ซึ่งในสัปดาห์ก่อนได้มีโอกาสไปเยี่ยมคารวะสมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา และพบกับนักธุรกิจในกัมพูชา โดยมีโอกาสได้แสดงเจตนารมณ์และความพร้อมของบริษัทในการเข้าไปลงทุนด้านพลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคนี้
ขณะที่การลงทุนในประเทศลาว ซึ่งที่ผ่านมาเป็นฐานการลงทุนหลักของบริษัทอยู่แล้วนั้น หากมีโครงการที่น่าสนใจจะขยายการลงทุน หรือมีโครงการลงทุนใหม่ บริษัทก็พร้อมเข้าร่วม
นายนพพล กล่าวว่า ด้านธุรกิจพลังงานทดแทนขณะนี้บริษัทมีกำลังผลิต 100 เมกะวัตต์ ณ สิ้นปี 54 และในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 60 เมกะวัตต์จากโซลาร์ฟาร์ม ซึ่งขณะนี้มีโครงการอยู่ในภาคอีสาน 3 แห่ง ภาคกลาง 6 แห่ง ส่วนโครงการพลังงานลมก็ยังลงทุนต่อเนื่อง อาทิ ห้วยบง 3 ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 20%
และบริษัทยังสนใจการประมูลใบอนุญาตตั้งโรงไฟฟ้า IPP ในประเทศ บริษัทมีความพร้อมที่จะเข้าประมูลรอบใหม่ เนื่องจากมีประสบการณ์ในการประมูลครั้งก่อนที่พลาดไป ปีนี้จึงจะเตรียมตัวให้ดีอย่างเต็มที่ มั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันกับรายอื่น ๆ ได้
นายนพพล กล่าววว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนรระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้วงเงินราว 500 ล้านเหรียญสหรัฐ อาจจะเสนอขายเป็นล็อต หรือออกพร้อมกันในคราวเดียว ส่วนหนึ่งเพื่อต้องการลดต้นทุนทางการเงินที่ปัจจุบันอยู่ที 5% เชื่อว่าจะทำให้ต้นทุนอัตราดอกเบี้ยลดลง ส่วนช่วงเวลาในการเสนอขายหุ้นกู้คงต้องดูความเหมาะสมอีกครั้ง
ผลประกอบการในปีนี้บริษัทคาดว่ารายได้และกำไรจะเติบโตกว่าปีก่อน โดยผลงานในปี 54 ที่กำไรลดลง เพราะบริษัทมีภาระต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลเต็ม 30% และไม่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่ในปีนี้น่าจะได้รับผลดีจากมาตรการรัฐบาลที่ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 23%