บมจ.มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์(MILL)จะเซ็นสัญญาสั่งซื้อเหล็กแท่งยาวจาก บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้(CHOW) จำนวน 1 แสนตัน มูลค่าราว 2 พันล้านบาท/ปี หลังจากที่ MILL เป็นคู่ค้ากับ CHOW มาเป็นเวลายาวนาน ซึ่งการเซ็นสัญญาครั้งนี้จะทำให้มั่นใจว่าจะมีคำสั่งซื้อเข้ามาไม่น้อยกว่า 1 แสนตัน/ปี ช่วยลดความสูญเสียจากลูกค้ารายใหญ่ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากคำสั่งซื้อดังกล่าวคิดเป็น 30% ของกำลังการผลิต
นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHOW กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมีเป้าหมายผลิตเหล็กแท่งยาวเพิ่มขึ้นเป็น 3.4-3.6 แสนตัน/ปี หรือเติบโตราว 20% จากปี 54 ที่ผลิตได้ประมาณ 2.8-3.0 แสนตัน/ปี พร้อมทั้งเดินหน้าขยายลูกค้าอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะได้รับคำสั่งซื้อสูงขึ้นทั้งจากลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ตามการเติบโตของธุรกิจในปีนี้ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน
"เชาว์สตีลฯ กับ มิลล์คอนสตีลฯ ซื้อขายเหล็กกลางน้ำกันมานาน โดยที่ผ่านมาซื้อขายกันแบบสัญญาใจปีละกว่า 1 แสนตันอย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากที่มิลล์คอนสตีลฯ ได้ลงทุนในโครงการ Green Mill ซึ่งผลิต Billet ระดับ special grade ขณะเดียวกันก็มีการผลิต Billet ระดับ commercial grade ซึ่งเป็น Billet ที่ เชาว์สตีลฯ ผลิตอยู่ในปัจจุบัน ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า มิลล์คอนสตีลฯ จะหันไปใช้ Billet ที่ผลิตเองในโครงการ Green Mill ดังนั้นเพื่อเป็นการตอกย้ำความมั่นใจให้กับทุกฝ่ายว่ามิลล์คอนสตีลฯ ก็ยังยืนยันจะสั่งซื้อสินค้าดังกล่าวจากเชาว์สตีลฯ และนำมาสู่การเซ็นสัญญาซื้อขายอย่างเป็นทางการดังกล่าว" นายอนาวิล กล่าว
บริษัทยังวางตำแหน่งเป็นสินค้าเหล็กกลางน้ำที่มุ่งผลิตเพื่อทดแทนตลาดของเหล็กนำเข้า จากคุณภาพสินค้าที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล บวกกับความได้เปรียบด้านต้นทุนการขนส่ง การส่งมอบให้กับลูกค้าได้ตรงเวลา ลูกค้าสามารถบริหารจัดการ inventory ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องสั่งสินค้าล็อตใหญ่เหมือนการนำเข้า และเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทั้งจากลูกค้ารายใหม่ และลูกค้าเก่าที่คาดว่าจะได้รับคำสั่งซื้อสูงขึ้นตามการเติบโตของธุรกิจเหล็ก ซึ่งในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน
ด้านนายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ MILL กล่าวว่า การเซ็นสัญญาครั้งนี้ถือว่า win-win ด้วยกันทั้งสองฝ่ายเพราะ MILL ก็ได้ secure วัตถุดิบที่มีคุณภาพแน่นอน ในขณะที่ CHOW ก็ได้ออเดอร์ชัดเจน และความร่วมมือทางธุรกิจครั้งนี้มีความเป็นไปได้จะนำไปสู่ความร่วมมือทางธุรกิจอื่นๆ อีก
อนึ่ง CHOW เป็นผู้ประกอบการผลิตเหล็กแท่งยาว ที่มีกำลังการผลิตเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มผู้ประกอบการเหล็กแท่งยาวที่ไม่ได้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เหล็กต่อเนื่อง โดยโรงงานมีกำลังการผลิตสูงสุด 730,000 ตัน/ปี แต่ปัจจุบัน มีนโยบายผลิตเฉพาะในช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าต่ำ ดังนั้น จึงทำให้กำลังการผลิตเต็มที่ 450,000 ตัน/ปี และในปีที่ผ่านมาใช้กำลังการผลิตเพียง 58% จึงสามารถเพิ่มกำลังการผลิตรองรับการเติบโตของธุรกิจได้อีกมาก
นายอนาวิล กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะเพิ่มการผลิตให้เป็น 4 แสนตันในปี 56 เพื่อรองรับความต้องการสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น