นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ (MILL) คาดว่า ในปี 55 EBITDA Margin จะเพิ่มเป็น 12-15% จากปีก่อนอยู่ที่ 5-8% หลังจากโครงการ Green Mill เริ่มผลิตได้แล้วตั้งแต่ต้นปี กำลังการผลิต 5 แสนตัน/ปี โดยกำลังการผลิตครึ่งหนึ่งจะผลิตเป็นเหล็กแท่งยาว(Billet)เกรดพิเศษ ซึ่งราคาขายสูงกว่าเหล็กทั่วไป และอีกครึ่งหนึ่งส่ง Billet ให้กับ MILL ผลิตเป็นเหล็กเส้นและเหล็กรูปพรรณ
ขณะที่ปีนี้บริษัทจะเพิ่มการใช้กำลังการผลิต เป็น 65-70% ของกำลังกการผลิตรวมที่ 8.5 แสนตัน/ปี (จากเหล็กเส้น 5.5 แสนตัน/ปี และเหล็กรูปพรรณ 3 แสนตัน/ปี) จากปีก่อนทีมีการใช้กำลังการผลิต 60% ดังนั้น จึงคาดว่าปี 55 บริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้นราว 10-15% เป็น 1.7 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่มียอดขาย 1.5 หมื่นล้านบาท
นายสิทธิชัย คาดว่า ในไตรมาส 4/55 บริษัทจะเข้าไปดำเนินกิจการโรงรีดเหล็กลวดของบมจ.อุตสาหกรรมเหล็กกล้าไทย (TSSI) ที่บริษัทเช้าซื้อกิจการเมื่อปีที่แล้วมูลค่า 3 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทเพิ่มขึ้นกว่าที่วางเป้าหมายไว้
ทั้งนี้ MILL ได้สั่งซื้อ Billet จากบมจ. เชาว์ สตีลอินดัสทรี้ (CHOW) เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบ ประมาณ 1 แสนตัน/ปี ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่เซ็นสัญญาซื้อขายกัน และปีต่อๆไปจะเซ็นสัญญาซื้อขายแบบปีต่อปี และเมื่อ TSSI เปิดเดินเครื่องผลิตมีแนวโน้มจะสั่งซื้อ Billet จาก CHOW มากขึ้น โดยบริษัทได้สั่งซื้อ Billet มานาน 6-7 ปีแล้ว นอกจากนี้ยังมีแผนจะร่วมมือสั่งซื้อเศษเหล็กนำเข้าด้วยกัน ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนได้อีกมาก
ปัจจุบัน MILL เข้าถือหุ้น CHOW ไม่ถึง 1% แต่ขณะนี้ยังไม่มีแผนซื้อเพิ่มเติม