ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 ก.พ.) หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 6 ประเทศในยูโรโซน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้เกิดความกังวลว่าวิกฤตหนี้ยุโรปอาจจะลุกลามรุนแรงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงในกรอบแคบๆ เนื่องจากภาวะการซื้อขายโดยรวมได้รับแรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมนีที่ฟื้นตัวขึ้นในเดือนก.พ.
ดัชนี Stoxx 600 ร่วงลง 0.2% แตะที่ 262.56 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวลง 10.28 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 6,728.19 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวลง 8.91 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 3,375.64 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดอ่อนลง 5.83 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 5,899.87 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิสประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลงมาอยู่ที่ A3 จาก A2 ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือของสเปนถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ A3 จาก A1 และโปรตุเกสถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ Ba3 จาก Ba2 พร้อมกับปรับลดอันดับเครดิตของมอลต้า สโลเวเนีย และสโลวาเกีย ลงมา 1 ขั้น โดยระบุว่า ประเทศเหล่านี้กำลังเผชิญกับความเสี่ยงทางการเงินและเศรษฐกิจมหภาคในระดับที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากสถาบัน (ZEW) ของเยอรมนีรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนพุ่งขึ้น 27 จุด แตะที่ 5.4 จุดในเดือนก.พ. หลังจากเดือนม.ค.ที่ผ่านมาตัวเลขอยู่ที่ระดับ -21.6 จุด
หุ้น ThyssenKrupp ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดของเยอรมี ร่วงลง 3.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 4
ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง โดยหุ้นริโอทินโตปิดลบ 3.1% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดลบ 0.5% หลังจากราคาโลหะพื้นฐานปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ตาม หุ้นโนเกียพุ่งขึ้น 2.1% และหุ้นลอรีอัล ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องสำอางค์รายใหญ่ของโลก พุ่งขึ้น 3.8%
นักลงทุนจับตาดูการประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนครั้งถัดไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 20 ก.พ. หลังจากที่รัฐมนตรีคลังได้ยกเลิกแผนการที่จะจัดประชุมรอบพิเศษในวันพุธนี้ และตัดสินใจหารือกันทางโทรศัพท์แทน เพื่อหารือเรื่องแผนช่วยเหลือกรีซ