หุ้น AOT ราคาบวก 0.48% มาอยู่ที่ 52.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 48.06 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.18 น. โดยเปิดตลาดที่ 52.25 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 53.25 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 52.25 บาท
บทวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย ระบุว่า บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT) รายงานผลประกอบการงวด 1QFY55 ออกมาดีเยี่ยม แม้ว่าเหตุระเบิดอาจจะกดดันราคาหุ้น
ทั้งนี้ AOT รายงานกำไรสุทธิงวด 1QFY55 ที่ 1.25 พันล้านบาท สูงกว่าประมาณการของเราที่ 737 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของประมาณการทั้งปีของเราที่ 4.2 พันล้านบาท (Consensus ประมาณการที่ 4.46 พันล้านบาท)เนื่องจากค่าเสื่อมราคาที่ลดลงมาอยู่ที่ 1.17 พันล้านบาท (งวด 4QFY54 อยู่ที่ 1.58 พันล้านบาท, งวด 1QFY54 อยู่ที่ 2.11 พันล้านบาท) จากผลประกอบการที่สูงกว่าคาดทำให้มีความเป้นไปได้ที่เราจะปรับประมาณการกำไรปี 55 เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากเหตุระเบิดที่สุขุมวิทเมื่อวานนี้ เรามองว่าอาจจะเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาหุ้นของAOT และ THAI ในระยะสั้น โดยคำแนะนำลงทุน และราคาพื้นฐาน อยู่ระหว่างการทบทวน
นายอำนาจ โงสว่าง ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า AOT วานนี้ได้ประกาศผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าที่คาดไว้ แต่เนื่องจากราคาหุ้นขึ้นมาใกล้ราคาเป้าหมายที่ 52 บาท/หุ้น แล้ว จึงคิดว่าให้รอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลง
ด้านบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯลดคำแนะนำลงเป็น "ถือ"หุ้น AOT ปัจจุบันราคาหุ้นสะท้อนมูลค่าปัจจุบันของ AOT แล้ว จึงโดยมีราคาเหมาะสมปรับปรุงเล็กน้อยจากการที่ AOT ปรับนโยบายทางบัญชีใหม่ที่ 52 บาท
ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้น 50% หลังวิกฤติน้ำท่วมสิ้นสุดลง สนับสนุนจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและฟื้นตัวได้เร็วตามมุมมอง ผนวกกับแรงเก็งกำไรในเรื่องการพิจารณาขึ้นค่าธรรมเนียมสนามบิน ซึ่งจาก EBITDA ที่แข็งแกร่งสะท้อนทางอ้อมให้เห็นว่า AOT สามารถดำเนินการขยายสนามบินได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพิงการขึ้นค่าธรรมเนียมดังกล่าวได้ ดังนั้นจึงยังให้มุมมองเป็นกลางสำหรับเรื่องการขึ้นค่าธรรมเนียมสนามบิน แม้ว่าจะสามารถให้มูลค่าเพิ่มกับหุ้นได้ 30% ก็ตาม