สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 52,529 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 30,093 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 57% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 20,421 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 3 ปี และ 5 ปี (LB155A LB176A และLB17OA) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 7,688 ล้านบาท หรือคิดเป็น 38% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 1,372 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้ของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC124A) หุ้นกู้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI12NA) และหุ้นกู้ของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (GLOW12DA) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 693 ล้านบาท หรือคิดเป็น 51% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 2,423 ล้านบาท นักลงทุนกลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตค้าตราสารหนี้มีสถานะซื้อสุทธิ 1,080 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 4,457 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับตัวลดลงเล็กน้อย หรือโดยเฉลี่ยแล้วปรับตัวลดลงในช่วง -1 ถึง -2 Basis Point ด้านผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี มีอุปสงค์จากนักลงทุนค่อนข้างมาก สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อตลาดตราสารหนี้ช่วงนี้ยังคงเป็นปัจจัยเรื่องวิกฤตหนี้ของประเทศกรีซที่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดที่ 3.01% ปรับตัวลดลง 0.01% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดคงที่ที่ 3.17%