นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัท ตงฟง ออโต้ โมบิล (ประเทศไทย) จำกัด (Dongfeng Automobile (Thailand)) จำนวน 106.82 ล้านบาท เพื่อใช้ในการก่อสร้างโรงงานประกอบรถยนต์แบรนด์ตงฟงจากประเทศจีน ภายในนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ด้วยกำลังการผลิต 5,000 คัน/ปี ซึ่งประเทศไทยจะเป็นฐานการผลิตแห่งเดียวในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในอนาคตมีโครงการจะส่งออกรถไปจำหน่ายยังประเทศลาว กัมพูชา พม่า และมาเลเซีย ภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
ปัจจุบันมีนักธุรกิจเอสเอ็มอีจีนที่เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยทั้งสิ้น 2,000 ราย ในจำนวนนี้ใช้บริการทางการเงินกับธนาคารแล้วจำนวน 800 ราย โดยมียอดสินเชื่อรวมทั้งหมดประมาณ 2,200 ล้านบาท โดยธนาคารกสิกรไทย มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในระบบธนาคาพาณิชย์
นอกจากนี้ ธนาคาร ยังจัดตั้งทีมผู้ดูแลความสัมพันธ์ลูกค้าจีน เพื่อดูแลนักธุรกิจจีนที่ต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยโดยเฉพาะ รวมถึงเป็นที่ปรึกษาในเรื่องการทำธุรกิจและเรื่องการเงินให้กับลูกค้า และจัดตั้งศูนย์ธุรกิจไทย-จีน เพื่อเป็นศูนย์กลางในการค้นหาหรือสอบถามข้อมูลเชิงธุรกิจ สำหรับนักธุรกิจจีนที่ต้องการเข้ามาลงทุนในไทย รวมทั้งนักธุรกิจไทยที่ต้องการไปลงทุนในจีน นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรม Business Matching เพื่อให้คู่ค้าระหว่างไทย-จีน ได้มาพบเจอกันที่ศูนย์ธุรกิจไทย-จีน อีกด้วย
ด้านนายอิสระ วงศ์รุ่ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลิสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะให้การสนับสนุนทางการเงินให้กับผู้แทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจาก บริษัท ตงฟง ออโต้โมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ในรูปแบบธุรกิจลีสซิ่ง (Captive Finance) โดยปัจจุบันมีการสนับสนุนสินเชื่อให้กับผู้แทนจำหน่ายกลุ่มแรกจำนวน 40 ราย วงเงินรวมประมาณ 195 ล้านบาท
เนื่องจากจีนเป็นประเทศผู้ผลิตและเป็นตลาดรถยนต์ใหญ่อันดับหนึ่งของโลก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาผู้ผลิตรถยนต์ของจีนเริ่มเข้ามารุกตลาดในไทย โดยในปี 2554 รถยนต์ของจีนมียอดขายรวมทั้งสิ้น 3,209 คัน คิดเป็นอัตราการขยายตัว 52% จาก 2,111 คันในปี 2553 แต่คิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.4% ของยอดขายรถยนต์ของไทยในปี 2554 ที่มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 794,486 คัน
ในปี 54 เฉพาะตลาดรถยนต์จีนในกลุ่มเชิงพาณิชย์ทำยอดขายเพิ่มขึ้นเท่าตัว ด้วยยอดขาย 2,108 คัน จาก 974 คันในปี 2553 ขณะที่แนวโน้มยอดขายในปี 2555 น่าจะยังเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากการเข้ามาบุกตลาดอย่างจริงจังของบริษัทผู้ผลิต เนื่องจากรถยนต์จีนมีราคาย่อมเยา ระดับราคาต่ำกว่า 3 แสนถึง 5 แสนบาท จึงสามารถดึงดูดความสนใจจากลูกค้าธุรกิจได้มากพอสมควร โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอี เนื่องจากเป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานบรรทุกสินค้าในปริมาณที่ไม่มาก คล่องตัว ประหยัดเชื้อเพลิง และคุ้มค่าสำหรับธุรกิจที่ไม่ใหญ่นัก
นายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตงฟง ออโต้โมบิล (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในส่วนของตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก ซึ่งเป็นตลาดเป้าหมายหลักของบริษัท ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ในปีที่ผ่านมา ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กมียอดขายรวมทั้งสิ้นกว่า 6,000 คัน หรือเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าประมาณ 74% โดยในส่วนของยอดขายรถยนต์ ตงฟง เองนั้นมียอดขายทั้งสิ้นกว่า 2,000 คัน และมีการเติบโตที่สูงขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 127%
ในปีนี้บริษัท ฯ คาดว่ายอดขายรถยนต์ของตงฟง จะอยู่ที่ประมาณ 3,000 คัน หรือเติบโตขึ้น 90% จากปี 2554 ทำให้ต้องสร้างโรงงานเพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อรองรับการเติบโตของยอดขาย โดยโรงงานแห่งนี้จะทำหน้าที่ประกอบรถยนต์ ตงฟง ทั้งหมด 3 รุ่น คือ ตงฟง มินิทรั๊ค, ตงฟง มินิแวน และ ตงฟง V-Series ซึ่งเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง สำหรับจำหน่ายในประเทศไทย