นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เปิดเผยว่า ในปี 55 ธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อขยายตัว 20-30% จากปี 2554 ที่บริษัทมีการเติบโตของสินเชื่อราว 27% ทั้งนี้สิ้นปี 54 ธนาคารมียอดสินเชื่อรวม 1.2 แสนล้านบาท
ด้านอัตราการเติบโตของเงินฝาก ตั้งเป้าไว้ที่ 30% โดย ณ สิ้นปี 54 มียอดเงินฝากที่ 1.34 แสนล้านบาท ซึ่งยังคงนโยบายบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม โดยจะควบคุมคุณภาพของสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ให้ต่ำกว่า 3% จากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 3.4% ซึ่งสูงขึ้นเล็กน้อยจากผลกระทบภาวะน้ำท่วมในช่วงไตรมาส 4/54
นอกจากนี้ ธนาคารยังตั้งเป้าการเติบโตของรายได้จากดอกเบี้ย (NII) ไม่น้อยกว่า 35% จากปี 54 ที่มีอัตราการเติบโต 7.6% อัตราการเติบโตของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non NII) ไม่น้อยกว่า 35% จากปี 54 ที่มีอัตราเติบโต 43.2 % (ไม่รวมกำไรจาการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของบสท. และกำไรจากการลูกหนี้ด้อยคุณภาพไม่มีหลักประกันให้บริษัทในเครือ) อัตราผลตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้น (ROE ) ไม่น้อยกว่า 10% และอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) ที่ไม่น้อยกว่า 1% ใกล้เคียงกับปี 54 และธนาคารยังตั้งเป้าในการเพิ่มอัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (NIM) เป็น 3.5-3.8% จาก 3.46% ในปี 54 โดยเน้นสินเชื่อรายได้รายเบี้ยค่อนข้างสูงอาทิ สินเชื่อเอสเอ็มอีและสินเชื่อราย่อยแบบไม่มีหลักประกัน
"ปี 55 ธนาคารยังคงสร้างความแข็งแกร่งด้านช่องทางการขายแสร้างยอดขายโดยมุ่งกลุ่มลูกค้ารายใหญ่และเอสเอ็มอี ด้วยการเจาะกลุ่มลูกค้า การ cross selling รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการเพื่อขยายฐานลูกค้ารายย่อยให้มากขึ้นและยังเน้นการบริหารความเสี่ยงและดูแลคุณภาพสินทรัพย์อย่างรัดกุมต่อเนื่อง พัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ และการรวมจุดแข็งของ CIMBTและ ซีไอเอ็ฒบีกรุ๊ปเพื่อมุ่งสู่ระดับภูมิภาค" นายสุภัค กล่าว
ด้านนายสุธีร์ โล้วโสภณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสสายบริหารเงิน CIMBT กล่าวว่า ธนาคารมีแผนการบริหารเงินโดยมีแผนออกตั๋วแลกเงินที่มีอนุพันธ์แฝง (Structured Bill of Exchange) ในช่วงไตรมาส 2/55 ซึ่งคาดว่าจะออกราว 9 พันล้านบาท โดยมีหลากหลายช่วงอายุทั้งแบบสั้นเป็นเดือนและแบบอายุ 3 ปี 5 ปีซึ่งเป็นการเพิ่มการทางเลือกการลงทุนที่หลากหลายให้ลูกค้าและคาดว่าจะมีผลตอบแทนที่ดี ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีตั๋ว B/E 2.5-2.6 หมื่นล้านบาท และเงินปฝากราว 1 แสนล้านบาทคิดเป็น 25% ของสัดส่วนเงินฝาก