นางสมหะทัย พานิชชีวะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) เปิดเผยว่า บริษัท ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลประเทศเวียดนาม ให้เข้าดำเนินการพัฒนาพื้นที่เพื่อจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 2 ภายใต้ชื่อโครงการ “อมตะเอ็กซ์เพลสซิตี้" (Amata Express City) บนเนื้อที่ประมาณ 1,500 เฮกเตอร์ (9,375 ไร่) ในจังหวัดดองไน ใกล้นครโฮจินมินห์ ซึ่งอยู่ห่างจากนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ (เบียนหัว) เพียง 10 กิโลเมตร
โดยแบ่งพื้นที่การพัฒนาของ 2 บริษัทหลัก ได้แก่ บริษัทดำเนินการพัฒนาพื้นที่ประมาณ 800 เฮกเกอร์ (5,000 ไร่) เพื่อพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยและบริการด้านต่างๆ อาทิ โครงการบ้านพัก อพาร์ทเมนต์ และสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันแบบครบวงจร และบริษัท อมตะ (เวียดนาม) จอยท์ สต๊อก คอมพานี พัฒนาพื้นที่ประมาณ 700 เฮกเกอร์ (4,375 ไร่) เพื่อรองรับภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะอุตสาหกรรมไฮเทค ซึ่งมั่นใจว่าหลังจากการพัฒนาพื้นที่แล้วเสร็จจะมีทุนต่างชาติเข้ามามากขึ้น คาดว่าการพัฒนาระยะแรกจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2558
"โครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมอมตะเอ็กซ์เพลสซิตี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการดำเนินธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมของอมตะในประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ที่ต้องการขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการลงทุนของกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการขยายกำลังการผลิตโรงงานเดิม และโรงงานที่จะเปิดใหม่ในอนาคตอันใกล้"นางสมหทัย กล่าว
อีกทั้ง รัฐบาลเวียดนามได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการดำเนินงานและบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมของอมตะ (เบียนหัว) ที่เปิดดำเนินงานในประเทศเวียดนามมาตั้งปี พ.ศ. 2537 บนพื้นที่รวม 700 เฮกเตอร์ (4,375ไร่) ในจังหวัดดองไน ซึ่งมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันมีโรงงานจำนวน 120 แห่ง และยังมีนักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้เกิดการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ
อมตะเอ๊กซ์เพลสซิตี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 9,375 ไร่ ซึ่งเป็นทำเลยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุดของประเทศเวียดนามมีความสะดวกด้านการคมนาคมและโลจิสติกส์ เนื่องจากอยู่ใกล้สนามบินลองธันห์ ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ของประเทศเวียดนามที่มีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารได้ถึง 52 ล้านคน ขนส่งสินค้าได้ถึง 1.5 ล้านตันต่อวันเพียง 6 กิโลเมตร อยู่ใกล้นครโฮจินมินห์เพียง 20 กิโลเมตร และมีถนนวงแหวนรอบนอก (Highway Outer Ring Road) เชื่อมต่อระหว่างนครโฮจินมินห์และสนามบินลอง ธันห์ อีกท งยังอยู่ใกล้แม่น้ำดองไนเพียง 1-2 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดการจัดทำแผนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว
นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการ AMATA ในฐานะ ประธานกรรมการ บริษัท อมตะซัมมิท เรดี้บิวล์ จำกัด กล่าวว่า สัดส่วนการย้ายฐานการลงทุนที่มีมากขึ้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ทำให้ฝ่ายบริหารได้ตัดสินใจลงทุนก่อสร้างโรงงานสำเร็จรูปเพิ่มเพื่อรองรับนักลงทุนใหม่ โดยใช้งบลงทุนเพิ่มขึ้น 1,000 ล้านบาท เป็น 2,000 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงงานเพิ่มขึ้นในปีนี้ จำนวน 100 โรงงาน โดยมีขนาดพื้นที่ในแต่ละโรงงาน 1,250 ตารางเมตร จากเดิมที่จะก่อสร้าง 50 โรงงาน
"มีนักลงทุนเข้ามาติดต่อขอเช่าเป็นจำนวนมากทั้งนักลงทุนไทยและต่างชาติที่ ย้ายฐานการผลิตจากต่างประเทศ โดยเฉพาะผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ขนาดกลางและย่อม และนักลงทุนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ทำให้ฝ่ายบริหารจึงตัดสินใจตั้งงบลงทุนเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้ โดยอยู่ระหว่างการก่อสร้าง แล้วจำนวน 20 โรงงาน เพื่อที่จะเร่งส่งมอบให้กับนักลงทุนที่เข้ามาจองพื้นที่ ซึ่งขณะนี้กลุ่มนักลงทุนหลายรายแสดงเจตจำนงค์ไว้แล้ว "นายวิบูลย์กล่าว
สถานการณ์ของการเข้าเช่าโรงงานสำเร็จรูปเชื่อว่ายังคงมีการขยายตัวอย่างมาก เป็นผลจากการขยายการลงทุนของกลุ่มยานยนต์ ส่งผลให้ผู้ประกอบการผลิตชิ้นส่วนต้องมีการลงทุนเพิ่ม รวมทั้งมีนักลงทุนบางส่วนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ได้ตัดสินใจที่มีการลงทุนเพิ่ม เพื่อกระจายความเสี่ยงมาลงทุนในภาคตะวันออกมากขึ้น เนื่องจากภาคตะวันออกเป็นพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเฉลี่ยกว่า 6 เมตร